คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4439/2543
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 158 (5) พระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ.2528 ม. 4, 30, 82
ตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528มาตรา 4 ได้นิยามคำว่า "จัดหางาน" หมายความว่า "ประกอบธุรกิจจัดหางานให้แก่คนหางาน" เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยกับพวกได้บังอาจร่วมกันจัดหางาน โดยใช้คำที่กฎหมายให้ความหมายไว้โดยเฉพาะก็เท่ากับบรรยายฟ้องว่าจำเลยกับพวกได้ประกอบธุรกิจจัดหางานอันถือได้ว่าจำเลยกับพวกมีเจตนาจัดหางาน ครบองค์ประกอบความผิดตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528มาตรา 30 วรรคหนึ่ง,82 แล้ว โดยมิต้องบรรยายว่าจำเลยเป็นผู้ที่ประกอบอาชีพโดยทำธุรกิจด้วยการจัดหางานอีก
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อระหว่างวันที่ 6 สิงหาคม 2541 เวลากลางวันถึงวันที่ 28 ตุลาคม 2541 เวลากลางวันติดต่อกันจำเลยกับพวกอีก 1 คนที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้องได้ร่วมกันจัดหางานให้แก่นายสมชัย เตียงไธสง ซึ่งเป็นคนหางานโดยเรียกเงินจากนายสมชัยเป็นเงิน 200,000 บาท เพื่อจัดหางานให้นายสมชัยไปทำงานที่ประเทศอังกฤษ โดยจำเลยกับพวกไม่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนจัดหางานกลาง อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายจำเลยเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 1619/2542ของศาลชั้นต้น ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528 มาตรา 30, 82 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83และนับโทษจำเลยต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 1619/2542(ต่อมาเป็นคดีหมายเลขแดงที่ 1778/2542) ของศาลชั้นต้น
จำเลยให้การรับสารภาพ และรับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528 มาตรา 30 วรรคหนึ่ง,82 ลงโทษจำคุก 3 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก1 ปี 6 เดือน นับโทษจำคุกต่อจากโทษจำคุกของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1778/2542 ของศาลชั้นต้น
จำเลยอุทธรณ์ขอให้รอการลงโทษ
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "มีปัญหาข้อกฎหมายต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า ฟ้องของโจทก์ขาดองค์ประกอบอันจะเป็นความผิดฐานจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่นั้น เห็นว่า ตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528 มาตรา 4 ได้นิยามคำว่า "จัดหางาน"หมายความว่า "ประกอบธุรกิจจัดหางานให้แก่คนหางาน" เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยกับพวกได้บังอาจร่วมกันจัดหางาน โดยใช้คำที่กฎหมายให้ความหมายไว้โดยเฉพาะ ก็เท่ากับบรรยายฟ้องว่าจำเลยกับพวกได้ประกอบธุรกิจจัดหางาน อันถือได้ว่าจำเลยกับพวกมีเจตนาจัดหางานครบองค์ประกอบความผิดตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528 มาตรา 30 วรรคหนึ่ง, 82 แล้ว โดยมิต้องบรรยายฟ้องว่าจำเลยเป็นผู้ที่ประกอบอาชีพโดยทำธุรกิจด้วยการจัดหางานโดยตรงอีก ฟ้องของโจทก์จึงสมบูรณ์"
พิพากษายืน
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan
แหล่งที่มา เนติบัณฑิตยสภา
ชื่อคู่ความ โจทก์ - พนักงานอัยการจังหวัดบุรีรัมย์ จำเลย - นาง กอบแก้ว จันทร์เพ็ญมงคล
ชื่อองค์คณะ พีรพล จันทร์สว่าง วิชัย ชื่นชมพูนุท สุรศักดิ์ กาญจนวิทย์
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan