สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4442/2540

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4442/2540

ประมวลกฎหมายอาญา ม. 352 วรรคสอง

พนักงานของธนาคารโจทก์ร่วมรับฝากเงินจากบริษัท ท. จำนวน 2,132,770 บาท เพื่อโอนเข้าบัญชีออมทรัพย์ของบริษัท ท.แต่พนักงานของโจทก์ร่วมป้อนข้อมูลเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ผิดพลาดไปเป็นเลขที่บัญชีออมทรัพย์ของจำเลยที่ธนาคารโจทก์ร่วม สำนักงานใหญ่ ต่อมาเมื่อจำเลยนำเงินฝากเข้าบัญชีในวันดังกล่าวจึงทราบว่ามีเงินมาเข้าบัญชีของจำเลยโดยการผิดพลาด จากนั้นจำเลยได้ถอนเงินจำนวนดังกล่าวในบัญชีของจำเลยไปจากธนาคารของโจทก์ร่วมสำนักงานใหญ่ โดยการปิดบัญชี การที่จำเลยได้ถอนเงินที่เข้าบัญชีผิดพลาดนั้นออกไปตั้งแต่ในขณะที่โจทก์ร่วมก็ยังไม่ทราบว่าเงินจำนวนนั้นไม่ใช่เป็นเงินของจำเลยก็ตามแม้จำเลยจะเป็นฝ่ายทราบแต่เพียงฝ่ายเดียวโดยโจทก์ร่วมยังไม่ทราบว่าเงินจำนวน 2,132,770 บาท นั้นเข้าบัญชีของจำเลยผิดพลาดก็ตาม แต่เมื่อจำเลยมีเจตนาทุจริตถอนเงินดังกล่าวไป และโจทก์ร่วมได้มอบเงินให้แก่จำเลยไปแล้วเช่นนี้ กรณีถือได้ว่าเงินจำนวน 2,132,770 บาท นั้นได้ตกมาอยู่ในความครอบครองของจำเลยเพราะโจทก์ร่วมได้ส่งมอบให้โดยสำคัญผิด การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 วรรคสอง

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 352 วรรคสอง ให้จำเลยชดใช้เงินที่ยักยอกจำนวน2,132,770 บาท คืนแก่ผู้เสียหาย

จำเลยให้การปฏิเสธ

ระหว่างพิจารณา ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 วรรคสอง จำคุก 1 ปี ลดโทษให้หนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 8 เดือนให้จำเลยชดใช้เงินที่ยักยอกจำนวน 2,132,770 บาท คืนแก่ผู้เสียหาย

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกินห้าปี ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218 วรรคแรก ในการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายนั้น ศาลฎีกาจะต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 222 โดยศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่า เมื่อวันที่13 ธันวาคม 2537 พนักงานของโจทก์ร่วม สาขาเพชรเกษม 33รับฝากเงินจากบริษัทไทยเยาฮาน จำกัด สาขาพิวเจอร์ปารค์พลาซ่าจำนวน 2,132,770 บาท เพื่อโอนเข้าบัญชีออมทรัพย์เลขที่001-1-59255-4 ของบริษัทไทยเยาฮาน จำกัด สำนักงานใหญ่แต่พนักงานของโจทก์ร่วมป้อนข้อมูลเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ผิดพลาดไปเป็นเลขที่ 001-1-59225-4 ซึ่งเป็นเลขที่บัญชีออมทรัพย์ของจำเลยที่ธนาคารโจทก์ร่วม สำนักงานใหญ่เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2537 จำเลยเปลี่ยนชื่อจากสุภาพรเป็นชื่นจิต และนำเงินฝากเข้าบัญชีในวันดังกล่าวจึงทราบว่ามีเงินเข้าบัญชีของจำเลยโดยการผิดพลาด ต่อมาวันที่ 19 ธันวาคม 2537 จำเลยได้ถอนเงินจำนวนดังกล่าวในบัญชีของจำเลยไปจากธนาคารของโจทก์ร่วม สำนักงานใหญ่โดยการปิดบัญชี

ปัญหาข้อกฎหมายที่จำเลยฎีกามีว่า เงินจำนวน 2,132,770 บาทเป็นทรัพย์ที่ได้ตกมาอยู่ในความครอบครองของจำเลยโดยพนักงานของโจทก์ร่วมเช่นนี้ เป็นการส่งมอบให้โดยสำคัญผิดตามความหมายของประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 วรรคสอง หรือไม่ เห็นว่า เงินจำนวน 2,132,770 บาท ปรากฏว่าเข้าบัญชีเงินฝากของจำเลยแต่วันที่ 13 ธันวาคม 2537 แล้ว โดยจำเลยทราบว่าเงินดังกล่าวเข้าบัญชีของจำเลยเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2537 เพราะการป้อนข้อมูลเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ผิดพลาด การที่จำเลยไถ่ถอนเงินที่เข้าบัญชีผิดพลาดออกไปตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2537ขณะนั้นโจทก์ร่วมเองก็ยังไม่ทราบว่าเงินจำนวนนั้นไม่ใช่เป็นเงินของจำเลยโดยเป็นของบริษัทไทยเยาฮาน จำกัดสาขาพวเจอร์ปาร์คพลาซ่า เพราะโจทก์ร่วมมาทราบเหตุในวันที่30 ธันวาคม 2537 โดยบริษัทไทยเยาฮาน จำกัดสาขาพิวเจอร์ปาร์คพลาซ่า ได้แจ้งให้โจทก์ร่วมทราบว่าเงินไม่ได้อยู่ในบัญชี ซึ่งเป็นระยะเวลาภายหลังจากที่จำเลยได้ถอนเงินจำนวนนั้นไปแล้ว แม้จำเลยจะเป็นฝ่ายทราบแต่เพียงฝ่ายเดียวว่าเงินจำนวน 2,132,770 บาท นั้นเข้าบัญชีของจำเลยผิดพลาด แต่เมื่อจำเลยมีเจตนาทุจริตถอนเงินดังกล่าวไป โดยโจทก์ร่วมได้มอบเงินให้แก่จำเลยไปแล้วเช่นนี้ กรณีถือได้ว่าเงินจำนวน 2,132,770 บาทนั้นได้ตกมาอยู่ในความครอบครองของจำเลย เพราะโจทก์ร่วมได้ส่งมอบให้โดยสำคัญผิดไปด้วยการป้อนข้อมูลเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ผิดพลาด จึงย่อมเป็นการส่งมอบเงินให้โดยสำคัญผิดตามความหมายของประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 วรรคสอง แล้ว

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - พนักงานอัยการ สำนักงาน อัยการ สูงสุด โจทก์ - โจทก์ร่วม โจทก์ - ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จำกัด ( มหาชน จำเลย - นาง สุภาพ รหรือชื่นจิต เบ็ง น้อย

ชื่อองค์คณะ ประกาศ บูรพางกูร ปรีชา เฉลิมวณิชย์ ธีระจิต ไชยาคำ

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE