ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำปรึกษามากกว่า
10,000+
ทนายความตัวจริง
500+


คดีนี้ศาลจังหวัดสมุทรสงครามตัดสินลงโทษจำเลยทั้งสามฐานกระทำอนาจารตามมาตรา ๒๔๖ จำเลยอุทธรณ์ โดยขอให้ ศาลถือเอาข้อความตามคำแถลงปิดสำนวนของจำเลยเป็นข้อฟ้องอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์สั่งว่าฟ้องอุทธรณ์ของจำเลยมิได้ระบุข้อเท็จจริงโดยย่อยหรือข้อกฎหมายที่ยกขึ้นอ้างอิง ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๙๓ ไม่รับฟ้องอุทธรณ์ของจำเลย
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ฟ้องอุทธรณ์ของจำเลยไม่ได้ระบุข้อเท็จจริงโดยย่อหรือข้อกฎหมายที่ยกขึ้นอ้างอิงมาเลย จะให้ถือเอาคำแถลงในศาลชั้นต้นมาเป็นฟ้องอุทธรณ์หาได้ไม่ เรื่องเช่นนี้ศาลฎีกาได้เคยวินิจฉัยไว้ในคำพิพากษา ฎีกาที่ ๕๒๙/๒๔๗๙ แม้คดีนั้นจะเป็นคดีแพ่งก็ดีหลักพิจารณาในเรื่องนี้สำหรับคดีอาญาหาแตกต่างกับคดีแพ่งไม่ เพราะประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๒๒๕ กับ ประมวลวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๙๓ ได้บัญญัติความไว้เช่นเดียวกัน จึงพิพากษายืนตามคำสั่งศาลอุทธรณ์
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา









