ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้ถือประทานบัตรทำเหมืองแร่ดีบุกที่ตำบลฉลอง โดยได้รับโอนประทานบัตรมาจากนายบุ่นจ่าว มีสิทธิที่จะใช้ที่ดินภายในเขตประทานบัตรเพื่อประโยชน์ในกิจการเหมืองแร่ของโจทก์ เมื่อโจทก์เริ่มดำเนินกิจการ จำเลยขัดขวางไม่ยอมให้โจทก์ใช้ประโยชน์ในที่ดินตอนสีแดงตามแผนที่ท้ายฟ้อง เฉพาะที่ดินที่จำเลยขัดขวางนี้เดิมเป็นของนายผ่าว นายผ่าวได้ทำสัญญารับรองไว้กับโลหกิจภูเก็ตแล้วว่ายินยอมให้โจทก์ดำเนินกิจการเหมืองแร่ในที่พิพาทได้ จำเลยเป็นทายาทของนายผ่าว จึงไม่มีสิทธิขัดขวางกิจการทำเหมืองแร่ของโจทก์ในที่พิพาท ขอให้ห้ามมิให้ขัดขวาง

จำเลยให้การว่า เดิมที่ดินเป็นของนายผ่าว นายผ่าวตาย จำเลยได้รับมรดกแทนที่สามีซึ่งเป็นบุตรนายผ่าว คือ ที่พิพาทนี้ นายผ่าวจะได้เอาที่พิพาททำสัญญารับรองไว้ตามฟ้องหรือไม่ไม่ทราบ กับต่อสู้ในข้ออื่นอีก

ในการชี้สองสถาน คู่ความติดใจว่ากล่าวกันเพียง 2 ประเด็น คือ

  1. นายผ่าวได้ทำสัญญาผูกพันกับนายบุ่นจ่าวหรือบริษัทโจทก์หรือโลหกิจจังหวัดภูเก็ต ยอมให้โจทก์ดำเนินกิจการเหมืองแร่ในที่พิพาทจริงหรือไม่และ

  2. โจทก์ได้รับประทานบัตรตามกฎหมายแล้ว จะมีสิทธิทำเหมืองแร่ในที่พิพาทได้หรือไม่

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาห้ามมิให้จำเลยขัดขวางในการที่โจทก์ดำเนินกิจการทำเหมืองแร่ในที่พิพาท

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาพิจารณาตามประเด็นที่คู่ความติดใจว่ากล่าวกัน 2 ประเด็นนั้น แล้วเห็นว่า

ประเด็นข้อแรก ฟังว่านายผ่าวได้ทำสัญญาผูกพันยอมให้นายบุ่นจ่าวดำเนินกิจการเหมืองแร่ในที่ของตนซึ่งรวมทั้งที่พิพาทได้

ประเด็นข้อ 2 นั้น ฟังได้ว่าเมื่อนายบุ่นจ่าวถึงแก่กรรมแล้วทรัพย์สินของนายบุ่นจ่าวได้โอนตกมาเป็นของบริษัทโจทก์ การที่โจทก์ได้เป็นผู้ถือประทานบัตรรายนี้ต่อมาจึงเป็นเรื่องที่โจทก์รับสืบเนื่องมาจากนายบุ่นจ่าวผู้ถึงแก่กรรม ตามพระราชบัญญัติการทำเหมืองแร่ พ.ศ. 2461 มาตรา 46 หาใช่เป็นเรื่องขอประทานบัตรใหม่อันเป็นคนละรายไม่ การที่คณะรัฐมนตรีต้องเป็นผู้อนุมัติให้บริษัทโจทก์ถือประทานบัตรสืบเนื่องจากนายบุ่นจ่าวก็เพราะกฎหมายมาตราดังกล่าวนั้นบัญญัติให้เป็นอำนาจของรัฐบาลที่จะอนุญาตในกรณีนี้ต่างหาก เมื่อเป็นเรื่องโจทก์ถือประทานบัตรโดยรับโอนสืบเนื่องมาจากนายบุ่นจ่าวเจ้าของเดิม โจทก์จึงรับโอนมาทั้งสิทธิและหน้าที่ของนายบุ่นจ่าวที่มีอยู่ตามประทานบัตรนั้น สัญญาที่นายผ่าวให้ไว้แก่นายบุ่นจ่าวจึงได้ตกทอดมายังโจทก์ด้วย จำเลยผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ที่พิพาทมาจากนายผ่าวโดยทางมรดก ก็ย่อมรับโอนมาทั้งสิทธิและหน้าที่ของนายผ่าวซึ่งทำสัญญาผูกพันที่พิพาทให้ไว้แก่นายบุ่นจ่าว ในอันที่จะต้องให้ความยินยอมและละเว้นไม่คัดค้านการเข้าทำเหมืองแร่ในที่พิพาทตามประทานบัตรด้วย ฉะนั้น เมื่อโจทก์เป็นผู้สืบสิทธิอันเกี่ยวกับประทานบัตรนี้มาจากนายบุ่นจ่าวตามพระราชบัญญัติการทำเหมืองแร่ดังกล่าวแล้ว โจทก์ก็ชอบที่จะใช้สิทธิทั้งหลายที่นายบุ่นจ่าวมีอยู่ในประทานบัตรในนามของตนเองเอากับจำเลยได้เมื่อจำเลยขัดขวางไม่ยอมให้เป็นไปตามข้อสัญญาเดิม โจทก์ก็มีสิทธิฟ้องบังคับจำเลย

พิพากษากลับ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th