ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ห้ามชั่วคราวก่อนพิพากษาความว่า เดิมโจทก์ฟ้องว่านายเปล่งได้ทำพินัยกรรมยกที่นา 2 แปลง เนื้อที่ 35 ไร่เศษกับ 26 ไร่เศษให้แก่โจทก์ เมื่อนายเปล่งตายแล้ว โจทก์ให้นายชุบเช่าทำนา ต่อมาจำเลยลอบไปขอรับมรดกที่ดิน 2 แปลงนี้ เจ้าหน้าที่หลงเชื่อจึงทำนิติกรรมโอนมรดกที่พิพาทให้จำเลย โจทก์ได้ฟ้องขอให้พิพากษาว่านิติกรรมการโอนมรดกที่นาพิพาทให้จำเลยเป็นโมฆะและแสดงว่าโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ มีสิทธิครอบครองนาพิพาทห้ามจำเลยเข้าเกี่ยวข้อง ระหว่างการพิจารณาคดีนี้ จำเลยได้ให้ผู้มีชื่อไถนาหว่านข้าวในนาพิพาทแปลงเนื้อที่ 26 ไร่เศษนั้น ทำให้โจทก์เสียหาย เพราะทำนาไม่ได้ โจทก์ต้องขาดรายได้เปลืองไปเปล่าคิดเป็นเงินปีละ 2,500 บาท จึงขอให้ศาลไต่สวนและมีคำสั่งห้ามจำเลยและบริวารมิให้ครอบครองทำนาพิพาท โดยให้โจทก์ทำนาในระหว่างการพิจารณาไปจนกว่าคดีจะถึงที่สุด ถ้าไม่อาจบังคับได้และจำเลยจะทำนา 26 ไร่เศษต่อไป ก็ขอให้วางเงินประกันการเสียหายต่อศาลอย่างน้อยปีละ 2,500 บาท ต่อฤดูทำนา และเงินนี้ให้ได้แก่ฝ่ายชนะคดีในที่สุด

ศาลจังหวัดสระบุรีมีคำสั่งว่า คดีนี้คู่ความพิพาทกันถึงเรื่องกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาท โจทก์จะร้องขอให้ใช้วิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษาไม่ได้ ให้ยกคำร้อง

โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกาขอให้สั่งศาลชั้นต้นรับคำร้องดำเนินการไต่สวนแล้วมีคำสั่งต่อไป

ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่านิติกรรมการโอนมรดกที่ดินรายพิพาท 2 แปลงแก่นางเว้จำเลยเป็นโมฆะ ส่วนคำร้องของโจทก์ร้องขอให้ศาลสั่งห้ามจำเลยชั่วคราวก่อนพิพากษามิให้ครอบครองที่รายพิพาท จึงเป็นคำร้องขอที่ไม่ตรงกับการกระทำที่ถูกฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 254(2) และที่โจทก์กล่าวว่าโจทก์ต้องขาดรายได้เปลืองไปเปล่าปีละ 2,500 บาท จะขอให้ศาลสั่งห้ามจำเลยและบริวารมิให้เข้าครอบครองทำนาพิพาทนั้น เมื่อคดีโจทก์ที่ฟ้องนี้พิพาทกันเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดิน การที่โจทก์ไม่ได้ค่าเช่าย่อมเรียกไม่ได้ว่าจำเลยทำให้เปลืองไปเปล่าซึ่งทรัพย์สินที่พิพาทตามมาตรา 254(2) นี้

อนึ่ง ที่โจทก์จะขอให้ศาลมีคำสั่งให้จำเลยวางเงินประกันการเสียหายนั้น อาจถือได้ว่าโจทก์ขอให้มีคำสั่งกำหนดวิธีการเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของโจทก์ในระหว่างการพิจารณาตาม มาตรา 264 ด้วย แต่เมื่อฟ้องโจทก์ไม่ได้เรียกร้องค่าเสียหายในการที่โจทก์ขาดผลประโยชน์จากที่ดินรายพิพาทในระหว่างการพิจารณาด้วย กรณีจึงไม่มีเหตุที่จะบังคับให้จำเลยวางเงินประกันค่าเสียหายตามคำร้อง ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำร้องโจทก์โดยไม่ดำเนินการไต่สวนนั้นชอบแล้ว

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th