ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2537 และวันที่ 4 ตุลาคม 2537จำเลยทั้งสองว่าจ้างให้โจทก์ก่อสร้างสถานีบริการน้ำมันที่ซอยวัดคู้บอนและซอยมหาดไทยโดยตกลงราคาค่าวัสดุและค่าแรงเป็นเงินค่าจ้าง3,830,605 บาท และ 2,019,657 บาท มีกำหนดเวลาสิ้นสุดสัญญาวันที่ 14 ธันวาคม 2537 และวันที่ 19 ธันวาคม 2537 ตามลำดับ โจทก์ทำงานเสร็จเรียบร้อยภายในระยะเวลาที่ตกลงกันและส่งมอบงานให้จำเลยทั้งสองแล้ว แต่จำเลยทั้งสองมิได้ชำระค่าจ้างให้ครบถ้วน คงค้างชำระค่าจ้างสัญญาฉบับแรก 506,000 บาท และสัญญาฉบับที่สองจำนวน 558,000 บาท รวมเป็นเงิน 1,064,000 บาท แต่โจทก์เรียกร้องเพียง 800,000 บาท โจทก์ทวงถามให้ชำระหนี้แล้วแต่จำเลยทั้งสองเพิกเฉย ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันชำระเงินจำนวน800,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยทั้งสองให้การว่า จำเลยที่ 1 ชำระเงินค่าจ้างให้โจทก์ครบแล้วจำเลยที่ 2 ทำสัญญาในฐานะกรรมการของจำเลยที่ 1 ไม่ได้ทำในฐานะส่วนตัวโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 2 มูลหนี้ตามสัญญาจ้างนับแต่วันถึงกำหนดชำระจนถึงวันฟ้องเกินกว่า 2 ปี คดีโจทก์จึงขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินจำนวน 800,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับถัดจากวันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 16ธันวาคม 2539) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2

จำเลยที่ 1 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยที่ 1 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยที่ 1เป็นประการแรกว่าจำเลยที่ 1 นำสืบนอกประเด็นไปจากคำให้การหรือไม่ข้อเท็จจริงได้ความว่าโจทก์เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างฟ้องจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างโจทก์ให้ก่อสร้างสถานีบริการน้ำมันโดยอ้างว่า โจทก์ก่อสร้างให้เสร็จเรียบร้อยตามสัญญาแล้ว แต่จำเลยที่ 1 ชำระค่าจ้างรายพิพาทไม่ครบจึงขอให้บังคับชำระค่าจ้างรายพิพาทในส่วนที่ค้าง จำเลยที่ 1 ให้การต่อสู้เพียงว่าจำเลยที่ 1 ชำระค่าจ้างรายพิพาทครบถ้วนทั้งเกินไปกว่าที่โจทก์ฟ้องส่วนในชั้นพิจารณาจำเลยที่ 1 นำสืบนอกเหนือไปจากคำให้การว่าโจทก์ก่อสร้างไม่แล้วเสร็จและก่อสร้างไม่เรียบร้อย จำเลยที่ 1 ต้องจ้างผู้รับเหมารายอื่นเข้าทำงานแทน ทั้งจำเลยที่ 1 ได้สั่งซื้อวัสดุเครื่องมือก่อสร้างให้แก่โจทก์เป็นบางส่วนซึ่งจำเลยที่ 1 สามารถนำค่าใช้จ่ายดังกล่าวไปหักออกจากค่าจ้างที่จะต้องจ่ายให้แก่โจทก์ได้นั้น เห็นว่า เมื่อคำให้การของจำเลยที่ 1 ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงดังที่จำเลยที่ 1 นำสืบดังกล่าว จึงถือได้ว่าจำเลยที่ 1 นำสืบนอกประเด็นไปจากคำให้การ กรณีหาใช่เป็นการนำสืบพยานในรายละเอียดเพื่อขยายข้อความในคำให้การต่อสู้คดีดังจำเลยที่ 1 ฎีกาไม่ ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาต้องกันให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินแก่โจทก์นั้น ชอบแล้วฎีกาของจำเลยที่ 1 ฟังไม่ขึ้น"

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th