ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำปรึกษามากกว่า
10,000+
ทนายความตัวจริง
500+


โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 33และริบมีดของกลาง
จำเลยให้การต่อสู้อ้างเหตุบันดาลโทสะ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 ประกอบมาตรา 72 จำคุก 3 ปีของกลางริบ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 วางโทษจำคุก 18 ปี คำรับของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หนึ่งในสาม คงจำคุก 12 ปี นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จำเลยใช้มีดของกลางแทงไปที่กลางหน้าอกของผู้ตายซึ่งมีอวัยวะสำคัญอยู่ภายในอย่างแรง แม้แทงเพียงครั้งเดียว แต่จำเลยย่อมเล็งเห็นได้ว่าอาจทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำโดยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย ปัญหาประการต่อไปว่า การที่จำเลยแทงผู้ตายเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะหรือไม่ เห็นว่า จำเลยกับผู้ตายอยู่กินกันฉันสามีภริยามานานประมาณ 30 ปี มีบุตรด้วยกัน 4 คน ผู้ตายกับจำเลยทะเลาะกันโดยใช้ถ้อยคำหยาบคายเป็นประจำทุกวัน ในวันเกิดเหตุก่อนจำเลยใช้มีดแทงผู้ตาย แม้ผู้ตายด่าจำเลยก่อนว่า "ไอ้หน้าหีหน้าแตด ไม่ช่วยทำมาหากิน" ก็เป็นเพียงการกล่าวถ้อยคำหยาบคายในขณะทะเลาะกันตามปกติที่เคยเป็นมา และขณะที่จำเลยแทงผู้ตายนั้นเพื่อนบ้านอีก 2 คนที่ร่วมดื่มสุรากับจำเลยและผู้ตายกลับไปแล้วคำกล่าวของผู้ตายจึงมิได้ทำให้จำเลยต้องอับอายขายหน้าบุคคลอื่นจะถือว่าจำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมหาได้ไม่การที่จำเลยแทงผู้ตายจึงมิใช่เพราะเหตุบันดาลโทสะ หากแต่เป็นเพราะจำเลยโกรธเคืองที่ผู้ตายด่าว่าจำเลย แต่เนื่องจากจำเลยกับผู้ตายอยู่กินกันฉันสามีภริยามานานและจำเลยกระทำผิดคดีนี้ด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ศาลฎีกาเห็นสมควรกำหนดโทษต่ำลงอีก
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำคุกจำเลย 15 ปี คำรับของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หนึ่งในสาม คงจำคุก 10 ปี นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา









