ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้พิพากษาว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ ให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ให้จำเลยและบริวารออกไปจากที่ดินพิพาทให้จำเลยใช้ค่าจ้างช่างและค่าแรงงาน 20,000 บาท ค่าวัสดุก่อสร้าง20,000 บาท แก่โจทก์ ให้จำเลยใช้ค่าขาดประโยชน์อันควรได้จากธุรกิจห้างสรรพสินค้าเดือนละ 30,000 บาท และค่าวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นปีละ 90,000 บาท นับแต่วันที่ 1 มกราคม 2534 จนกว่าจำเลยจะรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและออกไปจากที่ดินพิพาทแก่โจทก์

จำเลยให้การต่อสู้คดีและฟ้องแย้งขอให้ยกฟ้องและพิพากษาว่าที่ดินพิพาทเป็นของจำเลย ห้ามโจทก์และบริวารเข้าเกี่ยวข้องในที่ดินพิพาท ให้เพิกถอนหรือแก้ไขโฉนดที่ดินของโจทก์เฉพาะส่วนที่ออกทับที่ของจำเลย 6 ตารางวา และให้เจ้าพนักงานที่ดินเพิกถอนหรือแก้ไขโฉนดที่ดินเลขที่ 1982 ของจำเลยให้มีเนื้อที่57.2 ตารางวา

โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งทำนองเดียวกับคำฟ้อง ขอให้ยกฟ้องแย้ง

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ที่ดินพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ให้จำเลยและบริวารออกไปและรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่ดินพิพาท ห้ามจำเลยและบริวารเกี่ยวข้องกับที่ดินพิพาทอีกต่อไป ให้จำเลยชำระเงิน 10,000 บาท แก่โจทก์ และให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์ปีละ 40,000 บาท นับแต่วันที่ 1 มกราคม 2534 จนกว่าจำเลยจะรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่ดินพิพาท แต่ต้องไม่เกิน6 เดือน นับแต่วันคดีถึงที่สุด ยกฟ้องแย้ง

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายกอุทธรณ์จำเลย

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยตามที่จำเลยฎีกาข้อเดียวว่า ค่าเสียหายที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระปีละ 40,000 บาท ซึ่งเป็นค่าเสียหายในอนาคต จะนำไปคำนวณเป็นทุนทรัพย์ในชั้นอุทธรณ์ด้วยหรือไม่ เห็นว่า ตามคำฟ้องโจทก์และคำขอบังคับในส่วนค่าเสียหายที่คิดถึงวันฟ้อง ซึ่งสามารถคำนวณเป็นทุนทรัพย์ และโจทก์ต้องเสียค่าขึ้นศาลตามตาราง 1 ข้อ 1 (ก)มีเพียง 40,000 บาท เท่านั้น ค่าเสียหายนอกจากนั้นเป็นค่าเสียหายในอนาคต ซึ่งโจทก์ต้องเสียค่าขึ้นศาลเพียง 100 บาท ตามตาราง1 ข้อ 4 คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระค่าเสียหายที่คิดถึงวันฟ้องให้โจทก์เพียง 10,000 บาท ทุนทรัพย์ในชั้นอุทธรณ์ในส่วนที่เกี่ยวกับค่าเสียหายจึงมีเพียง 10,000 บาท เท่านั้น เมื่อรวมกับราคาที่ดินพิพาทอีก 30,000 บาทแล้ว คดีในส่วนฟ้องของโจทก์จึงมีทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นอุทธรณ์ตามอุทธรณ์จำเลย 40,000 บาทส่วนค่าเสียหายปีละ 40,000 บาท ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระแก่โจทก์นับแต่วันที่ 1 มกราคม 2534 ซึ่งเป็นวันหลังจากวันฟ้องนั้น เป็นค่าเสียหายในอนาคตจะนำไปรวมเป็นทุนทรัพย์ชั้นอุทธรณ์ด้วยไม่ได้ เมื่อทุนทรัพย์หรือราคาทรัพย์สินที่พิพาทกันในชั้นอุทธรณ์มีไม่เกิน 50,000 บาท คดีจึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 224 วรรคหนึ่ง ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลยชอบแล้วฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น อนึ่ง จำเลยฎีกาขอให้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิจารณาอุทธรณ์ของจำเลยซึ่งอุทธรณ์ทั้งคดีส่วนฟ้องของโจทก์และคดีส่วนฟ้องแย้งของจำเลยแล้วพิพากษาใหม่ ฎีกาจำเลยจึงมีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ ต้องเสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาในส่วนฟ้องของโจทก์และฟ้องแย้งของจำเลยอย่างละ 200 บาท รวมเป็น 400 บาท แต่จำเลยเสียเกินมา จึงสมควรคืนส่วนที่เกินให้จำเลย

พิพากษายืน คืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาส่วนที่เสียเกินมาแก่จำเลย

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th