สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 481/2523

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 481/2523

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 168 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 46, 51 วรรคสาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 86 วรรคสาม, 87 (2)

โจทก์ขอส่งสำเนาคำพิพากษาคดีอาญาเป็นพยานหลักฐานภายหลังที่โจทก์แถลงต่อศาลว่าหมดพยานแล้ว แต่เป็นคำพิพากษาซึ่งศาลลงโทษจำเลยฐานบุกรุกอันเป็นมูลคดีนี้ซึ่งโจทก์ก็ได้กล่าวอ้างผลของคำพิพากษาและหมายเลขคดีอาญานั้นมาในฟ้องแล้ว จำเลยไม่ได้ให้การปฏิเสธ จึงถือว่าจำเลยรับข้อเท็จจริงนั้นแล้ว โจทก์ก็ไม่จำเป็นต้องนำสืบเกี่ยวกับข้อเท็จจริงนั้นอีก แต่เมื่อโจทก์อ้างส่งและศาลชั้นต้นเห็นว่าเป็นพยานหลักฐานอันเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดีและเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลย่อมมีอำนาจที่จะรับสำเนาเอกสารดังกล่าวไว้ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 86วรรคสาม 87(2)

เมื่อคดีอาญาดังกล่าวศาลฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยกระทำผิดฐานบุกรุกตึกแถวพิพาท คดีถึงที่สุดแล้ว การพิพากษาคดีนี้ซึ่งเป็นคดีส่วนแพ่ง ศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามคดีอาญานั้น

คดีนี้เป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาซึ่งจำเลยถูกฟ้องฐานบุกรุกและถูกลงโทษเสร็จเด็ดขาดแล้วก่อนโจทก์ฟ้องคดีนี้ สิทธิของโจทก์ที่จะฟ้องคดีแพ่งย่อมมีกำหนดอายุความ10 ปี ตามมาตรา 168 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา51วรรคสาม

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบุกรุกเข้าไปอยู่ในตึกแถว 1 คูหาของโจทก์ ขอให้ขับไล่จำเลยและให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายถึงวันฟ้องรวม 53 เดือน เป็นเงิน 31,800 บาทและค่าเสียหายต่อไปเดือนละ 600 บาท

จำเลยต่อสู้ว่าจำเลยอยู่ในห้องพิพาทโดยอาศัยสิทธิตามสัญญาจองห้องโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ ค่าเสียหายของโจทก์ไม่เกินเดือนละ50 บาท ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาขับไล่จำเลยตามขอ

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกาปัญหาข้อกฎหมาย

ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว จำเลยฎีกาข้อแรกว่าที่ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้รับสำเนาคำพิพากษาศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ในคดีอาญาหมายเลขแดง 6427/2517 ซึ่งโจทก์ส่งภายหลังที่โจทก์แถลงต่อศาลว่าหมดพยานแล้ว เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาไม่ชอบทำให้จำเลยเสียเปรียบนั้น เห็นว่าคำฟ้องคดีนี้โจทก์ได้บรรยายโดยชัดแจ้งว่าจำเลยบุกรุกห้องพิพาทและศาลลงโทษจำเลยฐานบุกรุก ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนคดีถึงที่สุด ซึ่งจำเลยมิได้ปฏิเสธอันถือว่าจำเลยรับแล้ว ทั้งโจทก์ก็ได้ระบุอ้างสำนวนคดีอาญาดังกล่าวในบัญชีพยานของโจทก์ไว้แล้ว แม้จะได้ส่งอ้างคำพิพากษาคดีดังกล่าวในภายหลังที่โจทก์แถลงหมดพยานแล้ว เมื่อศาลชั้นต้นเห็นว่าเป็นพยานหลักฐานอันเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดีและเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ย่อมมีอำนาจสั่งอนุญาตและรับสำเนาเอกสารดังกล่าวได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 86 วรรคสาม, 87(2) ไม่เป็นการทำให้จำเลยเสียเปรียบในการต่อสู้คดี

ที่จำเลยฎีกาโต้เถียงว่า จำเลยเข้าอยู่ในห้องพิพาทไม่เป็นการบุกรุกแต่กรณีเป็นเรื่องครอบครองตึกแถวพิพาทโดยอาศัยสิทธิตามสัญญาจองห้องนั้นเห็นว่า คดีนี้เป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา เมื่อคดีอาญาดังกล่าววินิจฉัยฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยไม่มีสิทธิอันใดในห้องพิพาทจึงเป็นความผิดฐานบุกรุกตึกแถวพิพาท และพิพากษาลงโทษจำเลย คดีถึงที่สุดแล้ว การพิพากษาคดีนี้ซึ่งเป็นคดีส่วนแพ่ง ศาลจำต้องถือว่าจำเลยบุกรุกตึกแถวพิพาทจริงตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 46 จำเลยเข้าอยู่ในห้องพิพาทจึงเป็นการบุกรุก จำเลยจะฎีกาโต้เถียงข้อเท็จจริงเป็นอย่างอื่นมิได้

ส่วนฎีกาข้อสุดท้ายที่ว่า โจทก์ฟ้องคดีเกินกว่า 1 ปี นับแต่วันที่โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยบุกรุก อันโจทก์ถือว่าเป็นมูลละเมิดเรียกค่าเสียหายจากจำเลยคดีของโจทก์ขาดอายุความแล้วนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าคดีนี้เป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา และจำเลยได้ถูกฟ้องเป็นคดีอาญาซึ่งศาลได้พิพากษาลงโทษจำเลยฐานบุกรุกตึกแถวพิพาทเสร็จเด็ดขาดแล้วก่อนที่โจทก์ยื่นฟ้องคดีนี้ ดังนี้ สิทธิของโจทก์ที่จะฟ้องคดีแพ่งย่อมมีกำหนดอายุความ 10 ปี ตามมาตรา 168 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 51 วรรคสาม หาใช่มีกำหนดอายุความ 1 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 ดังที่จำเลยฎีกาไม่ คดีของโจทก์ไม่ขาดอายุความ

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - วัดจันทร์สโมสร จำเลย - นายสุวิทย์ ทวีผลโชค

ชื่อองค์คณะ ภิญโญ ธีรนิติ ภักดิ์ บุณย์ภักดี อาจ ปัญญาดิลก

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE