ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันมีอาวุธปืนไม่มีหมายเลขทะเบียนและกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต กับร่วมกันพกพาอาวุธปืนและยิงปืนโดยไม่มีเหตุสมควรและใช้เหตุในเมือง หมู่บ้าน ที่ชุมชนขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 8 ทวิ, 72, 72 ทวิพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2517 มาตรา 3 คำสั่งคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 44 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2519ข้อ 3, 6, 7 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371, 376, 83 ขอให้ริบของกลาง

จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองตามฟ้อง

จำเลยที่ 2 อุทธรณ์ว่า มิได้ร่วมกับจำเลยที่ 1 มีไว้ในครอบครองซึ่งอาวุธปืน กระสุนปืน และร่วมพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านและทางสาธารณะ ขอให้ยกฟ้อง

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์เกี่ยวกับจำเลยที่ 2เฉพาะข้อหาฐานมีไว้ในครอบครองซึ่งอาวุธปืน กระสุนปืน และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านและทางสาธารณะ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยที่ 2 ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาตามฎีกาของโจทก์ว่า ศาลจะนำข้อเท็จจริงจากรายงานของพนักงานคุมประพฤติมาวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 2 มิได้กระทำผิดตามฟ้องได้หรือไม่ ปรากฏว่าคดีนี้โจทก์จำเลยไม่สืบพยานก่อนศาลชั้นต้นพิพากษาได้มีคำสั่งตามรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่ 13 พฤษภาคม 2523 ว่า "เนื่องจากศาลประสงค์จะทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประวัติ ความประพฤติ ฯลฯ ตลอดจนสภาพสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับตัวจำเลยจึงให้พนักงานคุมประพฤติสืบเสาะและพินิจจำเลยนี้แล้วรายงานให้ทราบภายใน 15 วัน" วันที่ 28 พฤษภาคม 2523 พนักงานคุมประพฤติส่งรายงานการสืบเสาะและพินิจให้ศาลทราบ โดยในรายงานของพนักงานคุมประพฤติมีข้อเท็จจริงให้เห็นว่า จำเลยที่ 2 มิได้กระทำผิดด้วย ดังนี้ เห็นว่าตามคำสั่งศาลเห็นได้ว่า มิใช่เรื่องที่ศาลสั่งให้มีการสืบพยานเกี่ยวกับการกระทำที่โจทก์ฟ้องว่าเป็นความผิด แต่เป็นเรื่องสืบเสาะข้อเท็จจริงเพื่อนำมาใช้ในการพิจารณาโทษและวิธีการที่จะปฏิบัติต่อจำเลยเท่านั้น ถึงแม้ตามพระราชบัญญัติวิธีดำเนินการคุมประพฤติตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2522 มาตรา 13 ศาลจะมีอำนาจฟังรายงานของพนักงานคุมประพฤติตามมาตรา 11 โดยไม่ต้องมีพยานบุคคลประกอบ ฯลฯ ซึ่งอาจจะเป็นพยานหลักฐานที่มาสู่ศาลโดยชอบก็ตาม แต่ก็เป็นพยานหลักฐานสำหรับการพิจารณาเรื่องโทษและวิธีการที่จะดำเนินการต่อผู้กระทำผิดเท่านั้น หาใช่พยานหลักฐานที่จะนำมาวินิจฉัยการกระทำที่ถูกฟ้องด้วยไม่ การที่ศาลอุทธรณ์นำข้อเท็จจริงจากรายงานของพนักงานคุมประพฤติมาวินิจฉัยยกฟ้องจำเลยที่ 2 จึงเป็นการไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา

พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th