คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 493/2534
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 55
การใช้สิทธิทางศาลตาม ป.วิ.พ. มาตรา 55 นั้นมิได้หมายความว่าผู้ใดประสงค์จะใช้สิทธิของศาลอย่างใดก็อาจใช้ได้ตามอำเภอใจต้องพิจารณาด้วยว่ามีกฎหมายสารบัญญัติสนับสนุนว่าเป็นกรณีจำเป็นที่จะต้องมาร้องขอต่อศาลเพื่อรับรอง หรือคุ้มครองตามสิทธิของตนที่มีอยู่ด้วย กรณีผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งว่าคำให้การพยานโจทก์ คำพิพากษาศาลชั้นต้นและคำสั่งศาลฎีกาในคดีอาญาเป็นโมฆะนั้น ไม่มีกฎหมายสารบัญญัติบทใดบัญญัติสนับสนุนให้ผู้ร้องใช้สิทธิทางศาลได้ การที่ผู้ร้องอ้างว่าถูกโต้แย้งสิทธิแล้วนั้นก็เป็นเรื่องที่ผู้ร้องชอบที่จะฟ้องผู้ที่ผู้ร้องเห็นว่าโต้แย้งสิทธิของผู้ร้องเข้ามาเป็นคดีมีข้อพิพาท ดังนี้ผู้ร้องจะยื่นคำร้องขอเป็นคดีไม่มีข้อพิพาทหาได้ไม่.
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอว่า คดีก่อนผู้ร้องได้ฟ้องนายเกียรติศักดิ์หิรัญเจริญเวช ต่อศาลอาญาในความผิดฐานเบิกความเท็จ ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีไม่มีมูลพิพากษายกฟ้อง ผู้ร้องอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ผู้ร้องฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาผู้ร้องยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลฎีกา ศาลฎีกามีคำสั่งยกคำร้อง ผู้ร้องเห็นว่า การที่ผู้พิพากษาในคดีดังกล่าวนั่งพิจารณาสืบพยานโจทก์เพียงนายเดียว การที่คำพิพากษาศาลชั้นต้นฉบับพิมพ์ได้ถูกแก้ไขเพิ่มเติมหลายแห่งผิดไปจากที่ได้อ่านให้คู่ความฟังและการที่ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายบางข้อ เป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้มีคำสั่งว่าคำให้การพยานโจทก์กับคำพิพากษาศาลชั้นต้นและคำสั่งศาลฎีกาดังกล่าวเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 113 และ 115
ศาลชั้นต้นให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "ที่ผู้ร้องฎีกาในข้อแรกว่า คดีนี้เป็นกรณีที่ผู้ร้องอาจใช้สิทธิทางศาลได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 นั้น ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การที่จะใช้สิทธิทางศาลตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าวมีได้หมายความว่าผู้ใดประสงค์จะใช้สิทธิทางศาลอย่างใดก็อาจใช้ได้ตามอำเภอใจต้องพิจารณาด้วยว่ามีกฎหมายสารบัญญัติสนับสนุนว่าเป็นกรณีจำเป็นที่จะต้องมาร้องขอต่อศาลเพื่อรับรองหรือคุ้มครองตามสิทธิของตนที่มีอยู่ด้วย กรณีของผู้ร้องในคดีนี้ไม่มีกฎหมายสารบัญญัติบทใดบัญญัติสนับสนุนให้ผู้ร้องใช้สิทธิทางศาลได้ ที่ผู้ร้องอ้างในฎีกาว่าผู้ร้องถูโต้แย้งสิทธิแล้วนั้น ก็เป็นเรื่องที่ผู้ร้องชอบที่จะฟ้องผู้ที่ผู้ร้องเห็นว่าโต้แย้งสิทธิของผู้ร้องเข้ามาเป็นคดีมีข้อพิพาท ผู้ร้องจะยื่นคำร้องขอเป็นคดีไม่มีข้อพิพาทดังคดีนี้หาได้ไม่ กรณีไม่จำต้องวินิจฉัยฎีกาข้ออื่นของผู้ร้องต่อไปเพราะไม่อาจทำให้ผลคดีเปลี่ยนแปลง…"
พิพากษายืน.
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan
แหล่งที่มา สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ชื่อคู่ความ ผู้ร้อง - นาย โอภาส สาคร วา สี
ชื่อองค์คณะ จรัส อุดมวรชาติ ไมตรี กลั่นนุรักษ์ อุไร คังคะเกตุ
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan