สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 494/2525

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 494/2525

ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน

โจทก์หยุดงานโดยยื่นใบลาย้อนหลังอันเป็นการผิดระเบียบของจำเลย จำเลยจึงออกหนังสือเตือนและให้โจทก์ลงชื่อรับทราบ โจทก์ไม่ยอมลงชื่อ ผู้จัดการฝ่ายโรงงานของจำเลยจึงพูดกับโจทก์ว่า 'ถ้าคุณไม่ยอมเซ็นผมปลดคุณ' โจทก์พากันกลับไปและไม่มาทำงานอีกพฤติการณ์ดังกล่าวยังถือไม่ได้ว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นลูกจ้างประจำของจำเลยได้รับค่าจ้างวันละ 61 บาทกำหนดจ่ายค่าจ้างทุกวันที่ 15 และวันสิ้นเดือนของทุกเดือน เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม2524 จำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยไม่จ่ายค่าชดเชย สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าและค้างจ่ายค่าจ้างตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม 2524 ถึงวันที่ 21 ตุลาคม 2524 ขอให้ศาลบังคับให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์ที่ 1 จำนวน 5,490 บาท โจทก์ที่ 2 จำนวน 10,980 บาท จ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าแก่โจทก์คนละ 1,342 บาท และค่าจ้างค้างจ่ายอีกคนละ 488 บาท

จำเลยให้การว่า โจทก์หยุดงานเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2524 โดยปฏิบัติไม่ถูกต้องตามระเบียบการลา โจทก์ที่ 1 อ้างว่าป่วยซึ่งความจริงไม่ได้ป่วย โจทก์ที่ 2ลากิจ โดยมิได้บอกกล่าวล่วงหน้า จำเลยตักเตือนก็ไม่เชื่อฟังและพากันกลับไปไม่มาทำงานอีก โจทก์หยุดงานเองจำเลยมิได้เลิกจ้าง จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าชดเชยและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าหากโจทก์มีสิทธิได้รับสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าก็ไม่เกินคนละ 671 บาท และค่าจ้างค้างจ่ายจำนวน 366บาทขอให้ยกฟ้อง

ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงยังไม่พอฟังว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์พิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าจ้างให้แก่โจทก์คนละ 488 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2524 จนกว่าจะชำระแก่โจทก์เสร็จคำขออื่นให้ยก

โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า หนังสือของจำเลยที่นายสมชายนำไปให้โจทก์ลงชื่อรับทราบเป็นเพียงหนังสือเตือนโจทก์ เนื่องจากโจทก์ปฏิบัติผิดระเบียบการลาของจำเลย ไม่มีข้อความใดแสดงว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์ถึงแม้หนังสือเตือนจะมีข้อความว่า "ผลเสียหายที่บริษัทฯ (จำเลย)ได้รับเนื่องจากการกระทำของข้าพเจ้าในครั้งนี้ ข้าพเจ้ารู้สำนึกในความผิดจึงขอรับสารภาพว่าข้าพเจ้าได้กระทำผิดจริงและยินดีให้บริษัทฯลงโทษข้าพเจ้าดังต่อไปนี้ 1. ตักเตือน 2. ชดใช้ค่าเสียหาย 3. ปลดออกทันทีโดยไม่จ่ายค่าชดเชยให้ด้วยก็ตามแต่ก็มีข้อความต่อไปว่า ทั้งนี้ข้าพเจ้าขอรับรองว่านับแต่นี้เป็นต้นไปจะไม่กระทำผิดใด ๆ ให้เป็นที่เสื่อมเสียหรือเสียหายแก่บริษัทฯ อีกต่อไปหากข้าพเจ้าฝ่าฝืนด้วยกากระทำความผิดใด ๆ ก็ตามยินยอมให้บริษัทฯ ลงโทษแก่ข้าพเจ้าโดยไม่เรียกร้องใด ๆ ทั้งสิ้น ก็เพียงประสงค์ให้โจทก์ลุแก่โทษตนเองและสังวรถึงโทษที่จะได้รับภายหน้าเท่านั้น และปรากฏว่าลูกจ้างของจำเลยอื่นซึ่งทำผิดอย่างเดียวและคราวเดียวกับโจทก์ที่ลงชื่อรับทราบหนังสือเตือนก็ยังคงทำงานอยู่ต่อไป ส่วนคำพูดของนายสมชายที่ว่า "ถ้าคุณไม่ยอมเซ็นผมปลดคุณ" นั้น ก็มิได้พูดเป็นกิจจะลักษณะว่าเลิกจ้างโจทก์อาจเพียงคำขู่ให้โจทก์ลงชื่อรับทราบคำเตือนก็ได้ พฤติการณ์ดังกล่าวจึงยังถือไม่ได้ว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - นางประดับ ชอบหาญ กับพวก จำเลย - บริษัทด้ายและอวนไทย จำกัด

ชื่อองค์คณะ ไพศาล สว่างเนตร ขจร หะวานนท์ ดุสิต วราโห

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE