ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2558 เวลาประมาณ 7 นาฬิกา เจ้าพนักงานตำรวจจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีในข้อหาเสพเมทแอมเฟตามีน อันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 และมีเมทแอมเฟตามีนครึ่งเม็ดไว้ในครอบครอง แต่ในชั้นสอบสวนปรากฏว่าผู้ต้องหามีพฤติการณ์จำหน่ายเมทแอมเฟตามีน 3 เม็ด ให้แก่ผู้อื่นด้วย ผู้ร้องจึงแจ้งข้อหาแก่ผู้ต้องหาว่า เสพเมทแอมเฟตามีน มีเมทแอมเฟตามีนครึ่งเม็ดไว้ในครอบครองและจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน 3 เม็ด หลังจากนั้นผู้ร้องยื่นคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหาหลายครั้ง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาต ต่อมาผู้ร้องเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาและได้ส่งสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานอัยการจังหวัดน่านเพื่อพิจารณาสั่งฟ้องผู้ต้องหาแล้ว แต่พนักงานอัยการจังหวัดน่านส่งสำนวนการสอบสวนคืนมายังผู้ร้องเนื่องจากกรณีของผู้ต้องหาเข้าเงื่อนไขที่ผู้ร้องจะต้องยื่นคำร้อง ขอให้ศาลพิจารณามีคำสั่งให้ส่งตัวผู้ต้องหาไปตรวจพิสูจน์การเสพหรือการติดยาเสพติดตามพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ.2545 มาตรา 19 ขอให้มีคำสั่งส่งตัวผู้ต้องหาไปตรวจพิสูจน์การเสพหรือการติดยาเสพติดตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าว

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ผู้ร้องไม่ได้นำตัวผู้ต้องหามาพร้อมกับการยื่นคำร้อง ให้ยกคำร้อง

ต่อมาผู้ร้องยื่นคำร้องทำนองเดียวกับคำร้องดังกล่าวเป็นครั้งที่ 2

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ผู้ร้องยื่นคำร้องเกินระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนดและไม่ปรากฏเหตุสุดวิสัยหรือเหตุจำเป็นอย่างอื่นที่เกิดจากตัวผู้ต้องหา ให้ยกคำร้อง

ผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นทั้งสองคำสั่ง

ศาลอุทธรณ์แผนกคดียาเสพติดพิพากษายืน

ผู้ร้องฎีกา

ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่วินิจฉัยว่า คดีนี้ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ส่งตัวผู้ต้องหาไปตรวจพิสูจน์การเสพหรือการติดยาเสพติด ตามพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ.2545 คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ยกคำร้องของผู้ร้องทั้งสองครั้งจึงมิใช่คำสั่งในคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และไม่อยู่ในบังคับของพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ.2550 ดังนี้ เมื่อผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ยกคำร้องของผู้ร้องจึงเป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์ภาค 5 ที่จะพิจารณาพิพากษาคดี การที่ศาลอุทธรณ์แผนกคดียาเสพติดพิจารณาพิพากษาอุทธรณ์คำสั่งของผู้ร้องจึงเป็นการไม่ชอบ ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225 กรณีไม่จำต้องวินิจฉัยฎีกาของผู้ร้อง

พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แผนกคดียาเสพติด ให้ศาลชั้นต้นส่งถ้อยคำสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิจารณาพิพากษาอุทธรณ์ของผู้ร้องฉบับลงวันที่ 13 สิงหาคม 2558 ต่อไป

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา อ.1960/2559

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th