ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2506 จำเลยเอาความอันเป็นเท็จฟ้องต่อศาลจังหวัดลำพูนว่า โจทก์บังอาจร่วมกับพวกทำเอกสารปลอมขึ้น 2 ฉบับใจความว่า จำเลยได้กู้ยืมเงินโจทก์ไป 7,000 บาท เมื่อ 12 เมษายน 2499 ฉบับหนึ่ง อีกฉบับหนึ่งกู้ 500 บาท เมื่อ 19 กรกฎาคม 2500 และปลอมลายมือจำเลยลงในช่องผู้กู้ทั้งสองฉบับ ครั้นวันที่ 8 มีนาคม 2506 เวลากลางวัน โจทก์อ้างเอกสารปลอมทั้งสองฉบับนี้เป็นพยานต่อศาลในคดีอาญาเลขดำที่ 25/2506 ซึ่งเป็นฟ้องเท็จทั้งสิ้น ความจริงจำเลยกู้เงินโจทก์ตามเอกสารกู้ 2 ฉบับนั้นจริงเหตุเกิดที่ศาลจังหวัดลำพูน ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูนขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 75 ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วสั่งรับประทับฟ้อง

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยฟ้องเท็จ พิพากษาว่า จำเลยผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 175 แต่จำเลยลุแก่โทษต่อศาล คือ ถอนฟ้องเสียก่อนศาลพิพากษา ต้องตามมาตรา 176 ให้จำคุก 2 เดือนปรับ 300 บาท

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่าฟ้องโจทก์สมบูรณ์ แต่ไม่มีข้อเท็จจริงที่จะแสดงให้เห็นว่าจำเลยมีเจตนาแกล้งเอาความเท็จมาฟ้องโจทก์ ไม่พอลงโทษจำเลย พิพากษากลับยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยได้กู้เงินโจทก์ไป 2 ครั้งจริง หาใช่โจทก์ทำปลอมขึ้นไม่ เมื่อเป็นเช่นนี้ จำเลยมาฟ้องโจทก์หาว่าปลอมสัญญากู้จึงเป็นฟ้องเท็จ ฉะนั้น ที่ศาลอุทธรณ์ว่าไม่มีข้อเท็จจริงที่จะแสดงว่าจำเลยฟ้องเท็จนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย

แต่คดีที่จำเลยฟ้องเท็จต่อโจทก์นั้น ปรากฏว่าจำเลยได้ถอนฟ้องไปในระหว่างไต่สวนมูลฟ้อง ก่อนที่ศาลจะมีคำสั่งประทับฟ้อง ปัญหาว่าจำเลยจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 175 หรือไม่

พิจารณาประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 175, 176 แล้วจะเห็นได้ว่าไม่มีข้อความบัญญัติไว้เลยว่า การถอนฟ้องคดีอาญาระหว่างไต่สวนมูลฟ้องก่อนศาลสั่งประทับฟ้องจะไม่เป็นความผิดตามมาตรา 175 เป็นแต่มาตรา 176 บรรเทาโทษไว้ว่า การฟ้องผู้อื่นเป็นคดีอาญาด้วยความเท็จนั้น ถ้าขอถอนฟ้องหรือแก้ฟ้องให้ตรงกับความจริงก่อนศาลมีคำพิพากษาแล้ว ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ หรือจะไม่ลงโทษเลยก็ได้เท่านั้น แต่กฎหมายไม่ได้บัญญัติยกเว้นว่าการกระทำนั้นจะไม่เป็นความผิด ฉะนั้น จำเลยจึงยังมีความผิดตามมาตรา 175 อยู่ แต่ปรากฏว่าจำเลยได้ลุแก่โทษต่อศาลโดยขอถอนฟ้องก่อนศาลมีคำพิพากษา ควรได้รับการบรรเทาโทษตามมาตรา 176 กฎหมายหาได้บัญญัติว่า การถอนฟ้องในคดีเช่นนี้ต้องมิใช่เพราะผู้กระทำผิดจำนนต่อพยานหลักฐานจึงจะได้รับการบรรเทาโทษไม่ ฉะนั้น ตามที่โจทก์ฎีกาว่าจำเลยไม่มีสิทธิที่จะได้รับบรรเทาโทษเพราะจำนนแก่พยานจึงฟังไม่ขึ้น

นอกจากจำเลยลุแก่โทษต่อศาลแล้ว ยังปรากฏว่าจำเลยอายุ 68 ปี ต้องจำคุกมากว่า 45 วัน เห็นว่าจำเลยรับโทษมาพอสมควรแก่ความผิดแล้ว

พิพากษากลับ จำคุก 45 วันตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 175ประกอบมาตรา 176 แต่จำเลยต้องถูกจำคุกมาพอแก่โทษแล้ว ให้ปล่อยตัวจำเลยไป

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th