ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ทำสัญญาเช่าฉางจากจำเลยเพื่อใช้เป็นสถานที่เก็บรักษาข้าวเปลือกที่รับซื้อไว้มีกำหนด12 เดือน นับแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2522 ถึงวันที่ 18 กุมภาพันธ์2523 อัตราค่าเช่าเกวียนละ 110 บาท ต่อปี และจำเลยมีหน้าที่ตามสัญญาฝากทรัพย์ในฐานผู้รับฝาก โดยเมื่อจำเลยรับมอบข้าวเปลือกที่รับมอบไว้เป็นหลักฐานหากโจทก์ประสงค์จะนำข้าวเปลือกออกจากฉางดังกล่าว จำเลยจะต้องส่งมอบข้าวเปลือกให้ทันที ห้ามไม่ให้จำเลยนำออกมาจำหน่ายจ่ายโอนให้แก่บุคคลอื่นเป็นอันขาด เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากโจทก์เท่านั้น โจทก์ได้ฝากข้าวเปลือกเจ้าชนิด 10 ถึง15 เปอร์เซ็นต์ จำนวน 475,953 กิโลกรัมข้าวเปลือกเจ้าชนิด25 เปอร์เซ็นต์ จำนวน 19,251 กิโลกรัม และข้าวเปลือกเหนียวชนิดละจำนวน 44,114 กิโลกรัม ให้จำเลยเก็บรักษาไว้ในฉางที่เช่าจากจำเลย แต่จำเลยส่งมอบข้าวเปลือกแก่โจทก์ไม่ครบถ้วนน้ำหนักขาดหายไปบางส่วน คิดเป็นเงินค่าข้าวเปลือกที่หายไปจำนวน142,133.03 บาท โจทก์มีหนังสือฉบับลงวันที่ 27 กรกฎาคม 2525แจ้งยอดน้ำหนักข้าวเปลือกสูญหายให้จำเลยทราบเพื่อมาทำการตรวจสอบแต่จำเลยเพิกเฉย โจทก์จึงดำเนินการเบิกจ่ายเงินค่าเช่าฉางงวดที่สองจำนวน 30,250 บาท และค่ากรรมกรจำนวน 7,120.83 บาท นำมาหักกับจำนวนเงินที่จำเลยต้องชดใช้ให้โจทก์จำนวน 142,133.03 บาท คงเหลือยอดหนี้ทีจำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์จำนวน 104,762.20 บาท ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวน 165,655.22 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีจากต้นเงินจำนวน 104,762.20 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยให้การว่า จำเลยทำสัญญาให้โจทก์เช่าฉางตามฟ้องจริงและเมื่อเดือนตุลาคม 2522 จำเลยส่งมอบข้าวตามใบสั่งจ่ายข้าวเปลือกของโจทก์ให้แก่โรงสี อ. และ พ. ครบถ้วนตามหลักฐานใบสั่งจ่ายข้าวเปลือกจำเลยไม่เคยทำสัญญาฝากทรัพย์กับโจทก์ ไม่เคยได้รับหนังสือจากโจทก์ฉบับลงวันที่ 27 กรกฎาคม 2525 และฉบับลงวันที่ 17 มกราคม2526 จำเลยจึงไม่ต้องรับผิด จำเลยส่งมอบข้าวเปลือกให้โรงสีทั้งสองเมื่อเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน 2522 สัญญาเช่าฉางระหว่างโจทก์จำเลยสิ้นสุดลงแล้วตั้งแต่ส่งมอบข้าวเปลือกให้แก่โรงสีทั้งสองแต่โจทก์ไม่ได้ฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนภายใน 6 เดือน นับแต่วันสิ้นสัญญาดังกล่าว และไม่ได้ฟ้องขอให้ชดใช้ราคาทรัพย์ที่ฝากเกิน 10 ปี นับแต่เดือนตุลาคมและพฤศจิกายน 2522 คดีโจทก์จึงขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 165,655.22 บาทพร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี จากต้นเงินจำนวน 104,762.20บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลย อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 พิพากษากลับ ให้ยก ฟ้องโจทก์

โจทก์ ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ฎีกาปัญหาข้อกฎหมายเป็นใจความว่ากรณีตามฟ้องโจทก์ มิใช่เป็นการฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนเกี่ยวกับการฝากทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 671 แต่เป็นการฟ้องเรียกทรัพย์ที่ฝากคืนจากจำเลยผู้รับฝาก หรือให้จำเลยชดใช้ราคาทรัพย์จึงมีกำหนดอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 164 เดิม (มาตรา 193/30 ที่แก้ไขใหม่)โจทก์ได้แจ้งยอดข้าวเปลือกขาดน้ำหนักกับจำนวนเงินที่จำเลยจะต้องชดใช้ให้โจทก์เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2525 และโจทก์ฟ้องคดีนี้วันที่ 31 พฤษภาคม 2533 ยังไม่พ้นกำหนด 10 ปี จึงไม่ขาดอายุความนั้นในการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมาย เช่นนี้ ศาลฎีกาจำต้องถือตามข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 238 ประกอบมาตรา 247ศาลอุทธรณ์ภาค 2 ฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์ทำสัญญาเช่าฉางของจำเลยไว้เก็บข้าวเปลือกมีกำหนด 1 ปี นับตั้งแต่ วันที่ 19 กุมภาพันธ์2522 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2523 ตามสัญญาเช่าฉางเอกชนเอกสารหมายจ.2 แต่วินิจฉัยว่า สัญญาเช่าฉางเอกชนระหว่างโจทก์จำเลยดังกล่าวเป็นสัญญาฝากทรัพย์มิใช่สัญญาเช่าทรัพย์ และฟังข้อเท็จจริงต่อไปว่าโจทก์ได้ฝากข้าวเปลือกไว้แก่จำเลยเป็นข้าวเปลือกเจ้าชนิด 10 ถึง 15เปอร์เซ็นต์ จำนวน 475,953 กิโลกรัม ชนิด 25 เปอร์เซ็นต์ จำนวน19,251 กิโลกรัม และข้าวเปลือกเหนียวชนิดละ 44,114 กิโลกรัมต่อมาจำเลยได้จ่ายข้าวเปลือกเจ้าชนิด 10 ถึง 15 เปอร์เซ็นต์จำนวน 421,529 กิโลกรัม แก่ห้างหุ้นส่วนจำกัดพะเยามุ่ยฮวดเส็งและจ่ายข้าวเปลือกเหนียวชนิดคละจำนวน 42,875 กิโลกรัม แก่ห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงสีเอกชัย ตามคำสั่งของโจทก์แล้วปรากฎว่าต่อมาข้าวเปลือกทั้งสามชนิดที่ยังเหลืออยู่ที่ฉางจำเลยได้หายไปหมดเมื่อคิดหักข้าวเปลือกยุบตัวให้ตามมติคณะรัฐมนตรีแล้ว ข้าวเปลือกเจ้าชนิด 10 ถึง 15 เปอร์เซ็นต์ สูญหายไปจำนวน 43,816.46 กิโลกรัมชนิด 25 เปอร์เซ็นต์ สูญหายไป 18,480.96 กิโลกรัม และข้าวเปลือกเหนียวชนิดคละสูญหายไป 331.94 กิโลกรัม คิดเป็นเงินค่าข้าวเปลือกที่สูญหายไปทั้งสิ้น 142,133.03 บาท โจทก์เป็นหนี้จำเลยค่าเช่าฉางและค่าจ้างกรรมกรเป็นเงินจำนวน 37,370.83 บาท เมื่อหักกันแล้วจำเลยจึงเป็นหนี้ค่าข้าวเปลือกที่รับฝากไว้แล้วสูญหายไป จำนวนเงิน104,762.20 บาท มีปัญหาว่า อายุความฟ้องให้จำเลยชำระเงินค่าข้าวเปลือกที่จำเลยได้รับฝากแล้วสูญหายไปมีกำหนด 6 เดือน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 671 หรือมีกำหนด 10 ปี ตามมาตรา164 เดิม (มาตรา 193/30 ที่แก้ไขใหม่) เห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระเงินค่าข้าวเปลือกที่จำเลยรับฝากจากโจทก์แล้วสูญหายไปไม่ใช่เรื่องที่โจทก์ฟ้องให้จำเลยใช่ค่าสินไหมทดแทนเกี่ยวแก่การฝากทรัพย์ กรณีไม่ต้องด้วยมาตรา 671 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ทั้งการฟ้องให้ชำระเงินค่าข้าวเปลือกที่จำเลยรับฝากจากโจทก์แล้วสูญหายไป ไม่มีบทกฎหมายบัญญัติอายุความไว้ จึงมีอายุความ 10 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 เดิม (มาตรา 193/30ที่แก้ไขใหม่) ปัญหาต่อไปมีว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ข้อเท็จจริงได้ความว่า เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2525 โจทก์ได้มีหนังสือหมาย จ.10 แจ้งให้จำเลยทราบจำนวนน้ำหนักข้าวเปลือกแต่ละชนิดที่จำเลยรับฝากไว้ได้สูญหายไปจากการรับฝากของจำเลยและให้จำเลยชดใช้ราคาแทนนั้น ถือได้ว่าโจทก์ได้ใช้สิทธิเรียกร้องให้จำเลยชำระหนี้แล้ว อายุความ 10 ปี จึงเริ่มนับตั้งแต่ดังกล่าว โจทก์ฟ้องคดีนี้วันที่ 31 พฤษภาคม 2533 ยังไม่เกินกำหนด 10 ปีจึงไม่ขาดอายุความ

พิพากษากลับ ให้ บังคับ คดีไป ตาม คำพิพากษา ศาลชั้นต้น

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th