ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำปรึกษามากกว่า
10,000+
ทนายความตัวจริง
500+


โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2536 เวลากลางวันจำเลยได้พรากนางสาวสมคิด สุธร ผู้เยาว์อายุ 17 ปี 2 เดือนไปเสียจากนางจุรีพร ศรีประเสริฐ ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้ปกครองผู้ดูแล เพื่อการอนาจารโดยผู้เยาว์เต็มใจไปด้วย และจำเลยได้ข่มขืนกระทำชำเราผู้เยาว์ซึ่งมิใช่ภริยาของจำเลย โดยใช้กำลังประทุษร้ายกอดปล้ำผู้เยาว์และขู่เข็ญไม่ให้ขัดขืนส่งเสียงดังมิฉะนั้นจะฆ่า จนผู้เยาว์อยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ แล้วจำเลยได้ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายจนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้งโดยผู้เยาว์ไม่ยินยอม ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276,319, 91
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319 วรรคแรก จำคุก 2 ปี นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีคงมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยแต่เพียงว่า ผู้เสียหายเป็นผู้ปกครองหรือผู้ดูแลผู้เยาว์ อันจะทำให้การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 319 วรรคแรก หรือไม่ เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319คำว่า ผู้ปกครองหมายถึงผู้มีฐานะทางกฎหมายเกี่ยวกันกับเด็กเช่นเป็นบิดามารดา ซึ่งเป็นผู้ใช้อำนาจปกครอง ส่วนผู้ดูแลหมายถึงผู้ควบคุมระวังรักษาเด็กโดยข้อเท็จจริง เช่น ครูอาจารย์ นายจ้างเป็นต้น พยานโจทก์มีน้ำหนักรับฟังได้ว่า ผู้เสียหายเป็นผู้ปกครองและผู้ดูแลผู้เยาว์ทั้งในฐานะเป็นน้าและนายจ้างโดยได้รับมอบหมายจากบิดามารดาของผู้เยาว์ด้วย ในขณะที่ผู้เยาว์ทำงานอยู่กับผู้เสียหายจริง การที่จำเลยมีการขออนุญาตจากผู้เสียหายผู้เยาว์ออกไปข้างนอกหรือพาไปดูภาพยนตร์ แต่ผู้เสียหายไม่อนุญาตนับเป็นการใช้อำนาจปกครองและดูแลผู้เยาว์ตามที่ได้รับมอบหมายจากบิดามารดาผู้เยาว์และตามความเป็นจริงเมื่อผู้เสียหายทราบเรื่องราวว่าผู้เยาว์ถูกจำเลยพาไปร่วมประเวณีก็ได้เอาใจใส่ให้เด็กหญิงนงเยาว์ไปตามจำเลยมาเจรจากันเมื่อได้รับการปฏิเสธก็ได้ติดตามไปพบจำเลยที่ร้านเสริมสวยเข็มทองซึ่งจำเลยพักอาศัยอยู่ เมื่อเจรจาตกลงกันไม่ได้ก็พาผู้เยาว์ไปแจ้งความ พฤติการณ์ดังกล่าวมาล้วนเป็นการแสดงตนใช้อำนาจปกครองดูแลผู้เยาว์ตามความเป็นจริงแม้ต่อมาภายหลังผู้เยาว์จะไปทำงานที่ร้านเจริญทิพย์ ก็เป็นเวลาภายหลังเกิดเหตุคดีนี้แต่ขณะเกิดเหตุผู้เยาว์ยังอยู่ในความดูแลของผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยที่พาผู้เยาว์ไปร่วมประเวณีจึงเป็นการรบกวนสิทธิหรือแยกสิทธิในการควบคุมดูแลผู้เยาว์โดยปราศจากเหตุผลอันสมควร เป็นการพรากผู้เยาว์ไปจากความดูแลของผู้เสียหาย ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายอาญามาตรา 319
พิพากษายืน
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา








