ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277,317, 91

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคหนึ่ง, 317 วรรคหนึ่ง, 91เรียงกระทงลงโทษฐานพรากผู้เยาว์ให้จำคุก 3 ปี และฐานกระทำชำเราเด็กหญิง ให้จำคุก 4 ปี คำให้การของจำเลยในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 เห็นสมควรลดโทษให้หนึ่งในสามคงจำคุกฐานพรากผู้เยาว์2 ปี และฐานกระทำชำเราเด็กหญิง 2 ปี 8 เดือน รวมโทษจำคุก 4 ปี 8เดือน

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยสองกระทงรวม 3 ปี 6 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "มีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาจำเลยว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานพรากเด็กไปจากมารดาและผู้ดูแลตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 317 วรรคหนึ่งหรือไม่ ข้อเท็จจริงที่ศาลล่างทั้งสองฟังมาได้ความว่า นางพิมพ์พันธ์ ศรสิทธิ์หรือค้ำกลาง ได้นำเด็กหญิงพรสวรรค์ ค้ำกลางผู้เสียหายซึ่งมีอายุ14 ปีเศษ บุตรสาวไปทำงานที่ร้านขายอาหารของนางสุนันท์ อินทรหะวันเกิดเหตุจำเลยได้พาเด็กหญิงพรสวรรค์ผู้เสียหายออกจากร้านอาหารโดยไม่ปรากฏว่านางพิมพ์พันธ์และนางสุนันท์รู้เห็น แล้วพาไปกระทำชำเราที่บ้านพักของจำเลยโดยผู้เสียหายยินยอม ด้วยประสงค์จะเลี้ยงดูผู้เสียหายเป็นภริยา และต่อมาผู้เสียหายกับจำเลยได้อยู่กินฉันสามีภริยา การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานพรากเด็กไปจากมารดาและผู้ดูแลโดยปราศจากเหตุอันสมควรตามบทกฎหมายดังกล่าวฎีกาจำเลยข้อนี้ฟังขึ้น

ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาจำเลยข้อสุดท้ายมีว่า มีเหตุสมควรรอการลงโทษในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277วรรคหนึ่ง ให้จำเลยหรือไม่ เห็นว่า หลังเกิดเหตุนายไพฑูรย์จอดพิมาย บิดาจำเลยได้ไปสู่ขอผู้เสียหายจากนางพิมพ์พันธ์มารดาผู้เสียหายและได้จัดพิธีแต่งงานให้ผู้เสียหายกับจำเลยอยู่กินด้วยกันแล้ว และในระหว่างพิจารณาคดีฝ่ายผู้เสียหายได้ขวนขวายดำเนินการยื่นคำร้องขออนุญาตต่อศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครราชสีมาให้ผู้เสียหายทำการสมรสกับจำเลยได้ เมื่อคำนึงถึงสถานภาพและปัญหาครอบครัวของผู้เสียหายที่จะได้รับประกอบกับไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยรับโทษจำคุกมาก่อน หากรอการลงโทษจำคุกไว้เพื่อให้โอกาสจำเลยได้ประพฤติตนเป็นพลเมืองดีต่อไปย่อมจะเป็นผลดียิ่งกว่าลงโทษจำคุกไปเสียทีเดียว ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาลงโทษจำเลยโดยไม่รอการลงโทษให้นั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาจำเลยข้อนี้ฟังขึ้นเช่นกัน"

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 317 วรรคหนึ่ง สำหรับโทษจำคุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคหนึ่ง ให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th