คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5134/2539
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 55, 142
ข้อเท็จจริงปรากฏในชั้นฎีกาตามคำร้องของโจทก์ว่าโจทก์ฟ้องจำเลยที่ 4 ผิดคน จำเลยที่ 4 จึงมิใช่ผู้ค้ำประกันที่จะต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ซึ่งเป็นลูกหนี้โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 4 ศาลฎีกายกปัญหาเรื่องอำนาจฟ้องซึ่งเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนขึ้นวินิจฉัยให้ยกฟ้องจำเลยที่ 4 แม้คู่ความมิได้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5)
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสี่ร่วมกันชำระค่าเสียหายจำนวน 524,150 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยทั้งสี่ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นเงิน 174,400 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.4 ต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ คำขอนอกจากนี้ให้ยก
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา โจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องจำเลยที่ 4 อ้างว่าฟ้องผิดคน ศาลฎีกามีคำสั่งไม่อนุญาต
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "ข้อเท็จจริงปรากฏในชั้นฎีกาตามคำร้องของโจทก์ว่า โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 4 ผิดคน จำเลยที่ 4 จึงมิใช่ผู้ค้ำประกันที่จะต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 4 ศาลฎีกาเห็นสมควรยกปัญหาเรื่องอำนาจฟ้องซึ่งเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนขึ้นวินิจฉัย แม้คู่ความมิได้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5)"
พิพากษาแก้เป็นว่าให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 4นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan
แหล่งที่มา เนติบัณฑิตยสภา
ชื่อคู่ความ โจทก์ - บริษัท เงินทุนหลักทรัพย์ เกียรตินาคิน จำกัด จำเลย - นาย ธนูทอง แย้มเดช กับพวก
ชื่อองค์คณะ ดำรุพงศ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ทวีชัย เจริญบัณฑิต ดุสิต เพชรปลูก
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan