ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ขอให้จำเลยผู้จัดการมรดกของนายจวนจัดการแบ่งมรดกที่ดินให้แก่โจทก์ทั้งสองในฐานะทายาทโดยธรรมจำเลยเพิกเฉยหลังจากโจทก์ยื่นฟ้องแล้ว จำเลยได้จดทะเบียนโอนที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ เลขที่ 987 และเลขที่ 950 ให้แก่นายบรรจง โดยไม่มีอำนาจกระทำได้และไม่สุจริต ขอให้จำเลยจดทะเบียนแบ่งที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ เลขที่ 987และเลขที่ 950 และครึ่งหนึ่งของที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์เลขที่ 469 และเลขที่ 471 ออกเป็นสามส่วนแล้วแยกให้แก่โจทก์ทั้งสองคนละหนึ่งในสามส่วน หากทำไม่ได้ก็ให้มีการประมูลขายระหว่างทายาทด้วยกัน โดยนำเงินตามส่วนที่แต่ละคนจะได้รับคนละ 125,000 บาทมาแบ่งแก่ทายาท และขอให้มีคำสั่งเพิกถอนการโอนที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ เลขที่ 987 และเลขที่ 950 ระหว่างจำเลยและนายบรรจง

จำเลยให้การว่า จำเลยกับนายจวนจดทะเบียนสมรสกันเมื่อ พ.ศ. 2526 นายจวนมีที่ดินเป็นสินส่วนตัว ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ เลขที่ 987 และเลขที่ 950 รวม 2 แปลง แต่ได้ทำสัญญาขายที่ดินดังกล่าวให้แก่นายบรรจงเพื่อใช้จ่ายในการรักษาตัวต่อมาในเดือนพฤษภาคม 2531 จำเลยในฐานะผู้จัดการมรดกได้จดทะเบียนโอนที่ดินดังกล่าวให้แก่นายบรรจงตามสัญญาโดยสุจริตและไม่ทราบมาก่อนว่าถูกโจทก์ฟ้องเป็นคดีนี้ ส่วนที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์เลขที่ 469 และเลขที่ 471 เป็นสินส่วนตัวของจำเลยไม่ใช่ทรัพย์มรดกที่โจทก์ทั้งสองจะมีสิทธิฟ้องขอแบ่งได้ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเรียกนายบรรจง เข้ามาเป็นจำเลยร่วม

จำเลยร่วมให้การว่า จำเลยในฐานะผู้จัดการมรดกของนายจวนโอนที่ดินทั้งสองแปลงดังกล่าวให้ตามสัญญาจะซื้อขายที่ดินที่นายจวนได้ทำไว้กับจำเลยร่วม โดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนโจทก์ทั้งสองไม่มีสิทธิฟ้องขอเพิกถอนนิติกรรมการโอนดังกล่าวขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

ระหว่างกำหนดอายุความอุทธรณ์ โจทก์ที่ 1 ถึงแก่กรรมนายเจียร บุตรโดยชอบด้วยกฎหมายยื่นคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทนศาลชั้นต้นอนุญาต

โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน

โจทก์ทั้งสองฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ทั้งสองฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่าหนังสือสัญญาจะซื้อขายที่ดิน มีข้อความว่า ผู้ขายได้รับเงินค่าที่ดินไปครบถ้วนแล้ว สัญญาจะซื้อขายที่ดินจึงเป็นใบรับสำหรับการโอนหรือก่อตั้งสิทธิใด ๆ เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์และนิติกรรมที่เป็นเหตุให้ออกใบรับนั้นมีการจดทะเบียนตามกฎหมายมิได้ปิดอากรแสตมป์ รับฟังเป็นพยานหลักฐานไม่ได้นั้น เห็นว่าแม้โจทก์ทั้งสองจะอุทธรณ์ในปัญหาข้อนี้ แต่ศาลอุทธรณ์ภาค 3มิได้วินิจฉัยให้ เมื่อโจทก์ทั้งสองมิได้ฎีกาว่า ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3ไม่วินิจฉัยให้ไม่ถูกต้องตามกฎหมายอย่างไร ฎีกาของโจทก์ทั้งสองจึงไม่ชัดแจ้ง แม้เป็นปัญหาที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกาก็ไม่เห็นสมควรที่จะวินิจฉัยให้

พิพากษายกฎีกาโจทก์ทั้งสอง

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th