สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 520/2522

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 520/2522

พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 ม. 27, 91

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยลูกหนี้เด็ดขาดว.เจ้าหนี้ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในกำหนดเวลาชอบด้วยพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 27,91แล้ว แม้ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์จะมีผลให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หมดอำนาจที่จะดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของจำเลยลูกหนี้ต่อไปก็ตาม แต่คดียังไม่ถึงที่สุด เมื่อศาลฎีกาพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้พิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยลูกหนี้เด็ดขาด เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ย่อมมีอำนาจดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกหนี้ที่กระทำมาแล้ว รวมทั้งดำเนินการในเรื่องคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ต่อไปได้ เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ประกาศเพียงแต่ให้เจ้าหนี้ที่ยังไม่ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ไว้ให้ยื่นคำขอรับชำระหนี้เท่านั้นไม่รวมถึง ว.เจ้าหนี้หรือเจ้าหนี้อื่นซึ่งได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ไว้ก่อนแล้วดังนั้น การที่ ว. ไม่ยื่นคำขอรับชำระหนี้ใหม่อีกจะถือว่าไม่ประสงค์จะขอรับชำระหนี้ต่อไปไม่ได้ ว. จึงมีสิทธิได้รับชำระหนี้

เนื้อหาฉบับเต็ม

คดีนี้เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2514 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยเด็ดขาด นายวิชัยเจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในเวลาต่อมาวันที่ 29 มกราคม 2516 ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำสั่งศาลชั้นต้นให้ยกฟ้องโจทก์และวันที่ 7 กรกฎาคม 2518 ศาลฎีกาพิพากษากลับให้พิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาด เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ประกาศให้เจ้าหนี้ที่ยังไม่ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ไว้ให้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายในกำหนด ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้นายวิชัยได้รับชำระหนี้ตามความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์

เจ้าหนี้ผู้คัดค้านอุทธรณ์ว่า นายวิชัยไม่ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ใหม่ ไม่มีสิทธิได้รับชำระหนี้

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

เจ้าหนี้ผู้คัดค้านฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยลูกหนี้เด็ดขาด นายวิชัยเจ้าหนี้ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในกำหนดเวลา ซึ่งเป็นการชอบด้วยพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483มาตรา 27, 91 แล้วแม้ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ จะมีผลให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หมดอำนาจที่จะดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของจำเลยลูกหนี้ต่อไปก็ตามแต่คดียังไม่ถึงที่สุด เมื่อศาลฎีกาพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้พิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยลูกหนี้เด็ดขาดถึงที่สุดแล้วเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ย่อมมีอำนาจดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกหนี้ที่กระทำมาแล้ว รวมทั้งดำเนินการในเรื่องคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ต่อไปได้หามีกฎหมายบัญญัติให้ยกเลิกกระบวนพิจารณาคดีล้มละลายที่ดำเนินการมาโดยชอบแล้วไม่ โดยเฉพาะคำขอรับชำระหนี้ของนายวิชัยเจ้าหนี้ที่ยื่นไว้เดิมแล้วนั้น เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก็ได้ทำการสอบสวนและมิได้ประกาศให้ยกเลิกแต่อย่างใด ประกาศของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม2518 ก็เพียงแต่ให้เจ้าหนี้ที่ยังไม่ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ไว้ให้ยื่นคำขอรับชำระหนี้เท่านั้น ไม่รวมถึงนายวิชัยเจ้าหนี้หรือเจ้าหนี้อื่นซึ่งได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ไว้ก่อนแล้ว และการที่นายวิชัยไม่ยื่นคำขอรับชำระหนี้ใหม่อีก จะถือว่าไม่ประสงค์จะขอรับชำระหนี้ต่อไปดังที่เจ้าหนี้ผู้คัดค้านฎีกามิได้ คำพิพากษาฎีกาที่ 1808/2512 ที่เจ้าหนี้ผู้คัดค้านยกขึ้นอ้างมานั้น เป็นกรณีเจ้าหนี้มิได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ไว้ จะนำมาปรับกับข้อเท็จจริงในคดีนี้ไม่ได้ ที่ศาลล่างทั้งสองอนุญาตให้นายวิชัยเจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ชอบแล้ว ฎีกาของเจ้าหนี้ผู้คัดค้านฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - ห้างหุ้นส่วนจำกัดสยามโลหะพันธ์ จำเลย - บริษัทป๊อบผลิตภัณฑ์นม จำกัด จำเลย - เจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้ จำเลย - นายวิชัย โรจน์ธนะการค้า จำเลย - เจ้าหนี้ผู้คัดค้าน จำเลย - กรุงเทพมหานคร

ชื่อองค์คณะ ภิญโญ ธีรนิติ สีห์ คลายนสูตร ภักดิ์ บุณย์ภักดี

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE