ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำปรึกษามากกว่า
10,000+
ทนายความตัวจริง
500+


โจทก์ฟ้องขอบังคับจำนอง จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมชำระหนี้จำนองทั้งสิ้นจำนวน 8,500 บาท โดยผ่อนชำระเป็นรายเดือน ๆ ละ 1,000 บาท ภายในวันที่ 1 ของทุก ๆ เดือนจนกว่าจะครบหนี้ ศาลพิพากษาและบังคับตามยอมแล้ว ต่อมาจำเลยนำเงินมาวางศาลแต่ไม่ตรงกำหนดเวลา และจำนวนเงินครบบ้างไม่ครบบ้าง งวดหลังก่อนยึดทรัพย์จำเลยวางเงิน 200 บาท โจทก์ยื่นคำร้องว่าจำเลยผิดสัญญายอมขอให้ยึดทรัพย์ ศาลออกหมายบังคับคดี และเจ้าพนักงานบังคับคดียึดเรือนหนึ่งหลัง จำเลยวางเงิน 1,000 บาท ศาลสั่งขายทอดตลาด จำเลยร้องขอให้ปล่อยทรัพย์โดยยอมชดใช้ค่าใช้จ่ายชั้นบังคับคดี ศาลชั้นต้นสั่งว่า ควรตกลงกับโจทก์ จึงระงับการขายได้
จำเลยนำเงินมาวาง 1,000 บาท และยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นขอให้สั่งปล่อยทรัพย์ที่ยึด โดยให้จำเลยชำระค่าใช้จ่ายชั้นบังคับคดีเท่าที่มีอยู่ถึงวันจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาว่า ขณะจำเลยอุทธรณ์ จำเลยไม่ได้ผิดนัดชำระหนี้งวดใดเลยจะบังคับคดีถึงงวดที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระไม่ได้
ศาลฎีกาโดยที่ประชุมใหญ่เห็นว่า จำเลยทำสัญญายอมความชำระหนี้จำนองจำนวนหนึ่ง โดยมีข้อตกลงกำหนดและเวลาชำระหนี้ว่าจะต้องชำระภายในวันที่ 1 ของทุก ๆ เดือน ๆ ละ 1,000 บาท โดยไม่มีข้อความระบุว่า ถ้าผิดนัดงวดใดงวดหนึ่งให้ถือว่าผิดนัดทั้งหมด เมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงนี้ก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้ทำผิดสัญญายอม การที่จำเลยตกลงกำหนดเวลาชำระหนี้เป็นงวด ๆ นี้ หาได้แยกหนี้จำนวนนี้ออกเป็นราย ๆ ต่างรายกันไม่เหตุนี้ เมื่อจำเลยไม่ชำระหนี้ตามกำหนดเวลาที่ตกลงกันไว้ แม้แต่งวดหนึ่งงวดใดก็ย่อมตกเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้จำนองรายนั้นทั้งหมด หาใช่ผิดนัดแต่เฉพาะงวดไม่เมื่อจำเลยผิดนัดลงงวดใด โจทก์ก็ชอบที่จะบังคับจำนองเอาชำระหนี้ทั้งหมดได้
พิพากษายืน
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา








