สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5220/2566

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5220/2566

พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 ม. 122

การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะไม่ยอมรับสิทธิตามสัญญาที่มีต่อบุคคลอื่นตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 122 หมายถึงสิทธิตามสัญญาที่ลูกหนี้จะพึงได้รับ หาใช่สิทธิตามสัญญาที่ผู้อื่นจะพึงได้รับไม่ ผู้ร้องชำระราคาห้องชุดให้แก่ลูกหนี้ครบถ้วนตามสัญญาแล้ว ลูกหนี้ย่อมไม่มีสิทธิใด ๆ ที่จะได้รับจากผู้ร้องอีก คงมีแต่หน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติตามสัญญาจะซื้อจะขายคือโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้แก่ผู้ร้องเท่านั้น การที่ห้องชุดติดจำนองบริษัท ฮ. ก็เป็นหน้าที่ของลูกหนี้ที่ต้องไถ่ถอนจำนองจากบริษัท ฮ. หาใช่หน้าที่ที่ลูกหนี้ต้องปฏิบัติต่อผู้ร้องไม่ ประกอบกับศาลได้มีคำพิพากษาให้ลูกหนี้โอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้แก่ผู้ร้อง อันทำให้สิทธิของผู้ร้องมิใช่สิทธิตามสัญญาโดยแท้แต่เป็นสิทธิตามคำพิพากษา จึงไม่อยู่ในดุลพินิจของผู้คัดค้านที่จะพิจารณาว่าสิทธิตามคำพิพากษาที่ผู้ร้องจะพึงได้รับมีภาระเกินควรกว่าประโยชน์ที่จะพึงได้แก่กองทรัพย์สินของลูกหนี้หรือไม่ ผู้คัดค้านจึงไม่อาจอ้างอำนาจตามมาตรา 122 มาปฏิเสธไม่ยอมปฏิบัติตามคำพิพากษาที่จะต้องดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้แก่ผู้ร้องได้

เนื้อหาฉบับเต็ม

คดีสืบเนื่องมาจากศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาดเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2559 และพิพากษาให้ล้มละลายเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2560

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้มีคำสั่งกลับคำสั่งของผู้คัดค้านที่ยกคำร้องของผู้ร้อง และมีคำสั่งให้ผู้คัดค้านโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดเลขที่ 291/17, 291/18, 291/19, 291/20 และ 291/30 โครงการ ว. ตั้งอยู่บนที่ดินโฉนดเลขที่ 25706 ของลูกหนี้ให้แก่ผู้ร้องโดยปราศจากภาระติดพันด้วยค่าใช้จ่ายของลูกหนี้ หากไม่ชำระให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนา

ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านขอให้ยกคำร้อง

ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้ผู้คัดค้านโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดเลขที่ 291/17, 291/18, 291/19, 291/20 และ 291/30 โครงการ ว. ตั้งอยู่บนที่ดินโฉนดเลขที่ 25706 ให้แก่ผู้ร้อง ให้ผู้คัดค้านใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนผู้ร้องโดยกำหนดค่าทนายความแก่ผู้ร้อง 4,000 บาท โดยให้หักจากกองทรัพย์สินของลูกหนี้

ผู้คัดค้านอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษพิพากษาแก้เป็นว่า ให้ผู้คัดค้านโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดเลขที่ 291/17, 291/18, 291/19, 291/20 และ 291/30 โครงการ ว. ตั้งอยู่บนที่ดินโฉนดเลขที่ 25706 ให้แก่ผู้ร้องโดยปลอดจำนองด้วยค่าใช้จ่ายของลูกหนี้ หากไม่ดำเนินการให้ถือคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนา นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำสั่งศาลล้มละลายกลาง ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ

ผู้คัดค้านฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่คู่ความไม่โต้แย้งกันในชั้นนี้รับฟังเป็นยุติในเบื้องต้นว่า เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2555 ผู้ร้องทำสัญญาจะซื้อจะขายห้องชุดเลขที่ 291/17, 291/18, 291/19, 291/20 และ 291/30 โครงการ ว. ตั้งอยู่บนที่ดินโฉนดเลขที่ 25706 กับลูกหนี้ โดยผู้ร้องชำระราคาค่าห้องชุดทั้งห้าห้องครบถ้วนแล้ว แต่ลูกหนี้ไม่โอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้ร้องและลูกหนี้นำห้องชุดดังกล่าวไปจดทะเบียนจำนองไว้แก่บริษัท ฮ. วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2559 ผู้ร้องเป็นโจทก์ฟ้องลูกหนี้ต่อศาลจังหวัดพัทยาให้ปฏิบัติตามสัญญา วันที่ 25 เมษายน 2559 ศาลจังหวัดพัทยามีคำพิพากษาเป็นคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ผบ.632/2559 ให้ลูกหนี้ชำระเงินจำนวน 21,500,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับถัดจากวันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่ผู้ร้อง หรือให้ลูกหนี้ดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดเลขที่ 291/17, 291/18, 291/19, 291/20 และ 291/30 แก่ผู้ร้อง แต่ลูกหนี้ไม่ชำระหนี้และไม่ดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดดังกล่าวแก่ผู้ร้อง ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลจังหวัดพัทยาออกหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีเพื่อดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้แก่ผู้ร้อง แต่เนื่องจากผู้ร้องไม่มีหนังสือรับรองการปลอดหนี้จากนิติบุคคลอาคารชุด เจ้าพนักงานที่ดินจึงไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั้งห้าห้องแก่ผู้ร้องได้ ต่อมาศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาด ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ผู้คัดค้านปฏิบัติตามคำพิพากษาโดยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั้งห้าห้องให้แก่ผู้ร้องด้วยค่าใช้จ่ายของลูกหนี้ แต่ผู้คัดค้านเห็นว่าห้องชุดทั้งห้าห้องติดจำนองบริษัท ฮ. ซึ่งยื่นคำขอรับชำระหนี้ไว้แล้ว สิทธิตามคำพิพากษาของผู้ร้องมีภาระเกินกว่าประโยชน์ที่จะพึงได้ ผู้คัดค้านจึงไม่ยอมรับสิทธิตามคำพิพากษา แล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้องของผู้ร้อง

ปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้คัดค้านมีว่า ผู้คัดค้านมีอำนาจปฏิเสธไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาที่ให้ลูกหนี้โอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั้งห้าห้องแก่ผู้ร้องหรือไม่ เห็นว่า การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะไม่ยอมรับสิทธิตามสัญญาที่มีต่อบุคคลอื่นตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 122 นั้น หมายถึงสิทธิตามสัญญาที่ลูกหนี้จะพึงได้รับ หาใช่สิทธิตามสัญญาที่ผู้อื่นจะพึงได้รับไม่ คดีนี้ผู้ร้องได้ชำระราคาห้องชุดให้แก่ลูกหนี้ครบถ้วนตามสัญญาแล้ว ลูกหนี้ย่อมไม่มีสิทธิใด ๆ ที่จะได้รับจากผู้ร้องอีก ลูกหนี้คงมีแต่เพียงหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติตามสัญญาจะซื้อจะขายคือการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั้งห้าห้องให้แก่ผู้ร้องเท่านั้น ส่วนการที่ห้องชุดดังกล่าวติดจำนองบริษัท ฮ. ก็เป็นหน้าที่ของลูกหนี้ที่ต้องไถ่ถอนจำนองจากบริษัท ฮ. หาใช่หน้าที่ที่ลูกหนี้ต้องปฏิบัติต่อผู้ร้องไม่ ประกอบกับศาลจังหวัดพัทยามีคำพิพากษาในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ผบ.632/2559 ให้ลูกหนี้โอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั้งห้าห้องให้แก่ผู้ร้องอันทำให้สิทธิของผู้ร้องมิใช่สิทธิตามสัญญาโดยแท้แต่เป็นสิทธิตามคำพิพากษา จึงไม่อยู่ในดุลพินิจของผู้คัดค้านที่จะพิจารณาว่าสิทธิตามคำพิพากษาที่ผู้ร้องจะพึงได้รับมีภาระเกินควรกว่าประโยชน์ที่จะพึงได้แก่กองทรัพย์สินของลูกหนี้หรือไม่ ผู้คัดค้านจึงไม่อาจอ้างอำนาจตามมาตรา 122 มาปฏิเสธไม่ยอมปฏิบัติตามคำพิพากษาที่จะต้องดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั้งห้าห้องให้แก่ผู้ร้องได้ และแม้ว่าห้องชุดทั้งห้าห้องติดจำนองบริษัท ฮ. ก็ตาม แต่การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั้งห้าห้องให้แก่ผู้ร้องสามารถแยกส่วนกับภาระหนี้จำนองและการไถ่ถอนจำนองที่ลูกหนี้มีต่อบริษัท ฮ. ผู้รับจำนอง ทั้งบริษัท ฮ. ผู้รับจำนองเพียงแต่มีคำขอรับชำระหนี้ในฐานะเจ้าหนี้มีประกันตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 96 (3) ให้ผู้คัดค้านดำเนินการยึดห้องชุดทรัพย์จำนองแต่ละห้องออกขายทอดตลาดแล้วขอรับชำระหนี้สำหรับจำนวนที่ยังขาดอยู่ และผู้คัดค้านมีคำสั่งอนุญาตให้บริษัท ฮ. ได้รับชำระหนี้ตามคำขอ อำนาจในการจัดการห้องชุดทั้งห้าห้องดังกล่าวจึงตกเป็นของผู้คัดค้านและอยู่ในวิสัยที่ผู้คัดค้านจะดำเนินการในส่วนการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั้งห้าห้องให้แก่ผู้ร้องโดยปลอดภาระจำนองโดยนำเงินจากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ไปไถ่ถอนจำนองจากบริษัท ฮ. ผู้รับจำนองได้ และการดำเนินการดังกล่าวหาได้กระทบสิทธิของบริษัท ฮ. ผู้รับจำนองดังที่ผู้คัดค้านฎีกาไม่ ส่วนที่ผู้คัดค้านฎีกาว่า กองทรัพย์สินของลูกหนี้ไม่มีเงินเพียงพอที่จะนำไปไถ่ถอนจำนองห้องชุดทั้งห้าห้องจากบริษัท ฮ. ผู้รับจำนองนั้น ก็หาใช่ข้ออ้างในการปฏิเสธที่จะไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา ส่วนการที่ศาลจังหวัดพัทยามีคำพิพากษาให้ลูกหนี้ชำระเงิน 21,500,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันถัดจากวันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่ผู้ร้อง แต่ผู้ร้องมิได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ในมูลหนี้ตามคำพิพากษาดังกล่าวต่อผู้คัดค้านภายในกำหนดเวลาตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 27 และมาตรา 91 ก็หาได้เป็นการตัดสิทธิผู้ร้องมิให้ร้องขอให้ผู้คัดค้านปฏิบัติตามคำพิพากษาดังกล่าวในส่วนที่ให้ลูกหนี้ดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดแก่ผู้ร้องไม่ เพราะคำพิพากษาของศาลจังหวัดพัทยาให้สิทธิผู้ร้องในการเลือกว่าจะบังคับให้ลูกหนี้ชำระหนี้เงินแก่ผู้ร้องหรือให้ลูกหนี้ดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดแก่ผู้ร้องอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้ ผู้ร้องจึงชอบที่จะขอให้ผู้คัดค้านปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลจังหวัดพัทยาในส่วนที่ให้ลูกหนี้ดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดแก่ผู้ร้องได้ ส่วนที่ผู้คัดค้านฎีกาว่า ผู้ร้องยื่นคำร้องนี้เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลา 14 วัน นับแต่วันทราบคำสั่งของผู้คัดค้านตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 146 นั้น ผู้คัดค้านมิได้อุทธรณ์ปัญหาดังกล่าวต่อศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ จึงเป็นข้อที่ไม่ได้ว่ากล่าวกันมาโดยชอบในศาลล่าง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย ฎีกาของผู้คัดค้านฟังไม่ขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ที่ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษมีคำพิพากษาว่า หากไม่ดำเนินการให้ถือคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนานั้น เนื่องจากผู้คัดค้านมีหน้าที่โอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั้งห้าห้องให้แก่ผู้ร้องโดยปลอดจำนองด้วยค่าใช้จ่ายของลูกหนี้ อันเป็นหนี้กระทำการอยู่ด้วย มิใช่การทำนิติกรรมอย่างหนึ่งอย่างใดเพียงอย่างเดียว กรณีจึงไม่อาจให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาได้ ที่ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษมีคำพิพากษาในส่วนนี้มานั้นจึงไม่ชอบ ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขให้ถูกต้อง

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ผู้คัดค้านโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดเลขที่ 291/17, 291/18, 291/19, 291/20 และ 291/30 โครงการ ว. ตั้งอยู่บนที่ดินโฉนดเลขที่ 25706 ให้แก่ผู้ร้องโดยปลอดจำนองด้วยค่าใช้จ่ายของลูกหนี้ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา ล.26/2566

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ ผู้ร้อง - นาง น. ผู้ชำระบัญชีร้องขอให้บริษัท ว. ลูกหนี้ล้มละลาย นาย ม. ผู้คัดค้าน - เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์

ชื่อองค์คณะ ธีระพล ศรีอุดมขจร วิเชียร ดิเรกอุดมศักดิ์ เผด็จ ชมพานิชย์

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน ศาลล้มละลายกลาง - นางนุชนภางค์ ศิริอัสสกุล

  • นายฐานิต ศิริจันทร์สว่าง
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th