ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน 1,500,000 บาท พร้อมอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี

จำเลยให้การว่า จำเลยชำระหนี้แก่โจทก์ครบถ้วนแล้วขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 1,500,000 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีแก่โจทก์ นับแต่วันที่ 13กันยายน 2532 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ คำขอนอกนั้นให้ยก

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "มีปัญหาว่าฎีกาของโจทก์ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ โดยจำเลยแก้ฎีกาว่า โจทก์ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 30 เมษายน2534 นางสร้อยไข่ผู้รับมอบอำนาจให้ฟ้องคดีแทน ไม่ได้ยื่นคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่ นายศิริชัยทนายโจทก์เป็นเพียงตัวแทนช่วงของตัวความคือโจทก์ อำนาจของตัวแทนและตัวแทนช่วงย่อมสิ้นสุดลงเมื่อโจทก์ถึงแก่กรรม นายศิริชัยทนายโจทก์มายื่นฎีกาภายหลังโจทก์ถึงแก่กรรม คำฟ้องฎีกาของโจทก์จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย พิเคราะห์แล้วข้อเท็จจริงฟังได้จากคำแถลงรับของนางสร้อยไข่ผู้รับมอบอำนาจโจทก์และทนายจำเลยในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาว่า โจทก์ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2534 ขณะคดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 1 ไม่ปรากฏว่ามีผู้ใดขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ผู้มรณะ จนกระทั่งศาลอุทธรณ์ภาค 1 ทำคำพิพากษาและอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 ให้ผู้รับมอบอำนาจโจทก์ฟังเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2535 นายศิริชัยทนายโจทก์ซึ่งผู้รับมอบอำนาจโจทก์แต่งตั้งให้เป็นทนายความเป็นผู้ยื่นฎีกาเมื่อวันที่27 เมษายน 2535 เห็นว่า การที่คู่ความแต่งตั้งทนายความให้ว่าความและดำเนินกระบวนพิจารณาแทนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 60 นั้น เป็นการแต่งตั้งตัวแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ลักษณะ 15 ว่าด้วยตัวแทน ดังนั้น เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นตัวการถึงแก่กรรม สัญญาตัวแทนย่อมระงับไป ทนายโจทก์คงมีอำนาจและหน้าที่จัดการดำเนินคดีเพื่อปกปักรักษาประโยชน์ของโจทก์ต่อไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 828 จนกว่าทายาทหรือผู้แทนของโจทก์จะอาจเข้ามาปกปักรักษาประโยชน์ของโจทก์ ทนายโจทก์ย่อมมีอำนาจที่จะรักษาประโยชน์ของตัวความไว้ได้ อำนาจทนายความหาได้หมดสิ้นไปทันที เมื่อโจทก์ถึงแก่กรรมไม่ ทนายโจทก์มีอำนาจลงนามเป็นผู้ฎีกาแทนโจทก์ได้เทียบเคียงนัยคำพิพากษาฎีกาที่1635/2520 ระหว่าง วัดจันทร์สโมสร โดยนายสวัสดิ์ รักวณิชย์ผู้รับมอบอำนาจ โจทก์ นายตงจุ่น แซ่โอว โดยนายอัมพรอนุตตรกุลวนิช ผู้เข้าเป็นคู่ความแทน จำเลย ฎีกาของโจทก์จึงชอบด้วยกฎหมายแต่ความปรากฎต่อศาลฎีกาว่า เมื่อครบกำหนดหนึ่งปีนับแต่วันที่ที่ปรากฏต่อศาลว่าโจทก์ถึงแก่กรรมแล้วไม่มีผู้ใดยื่นคำขอเข้ามาเป็นคู่ความแทนที่โจทก์โดยไม่ปรากฏเหตุผลว่าเป็นเพราะเหตุใด ทั้งปรากฏตามมรณบัตรว่านางสร้อยไข่เป็นผู้แจ้งการตาย จึงเห็นสมควรให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความศาลฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 42"

จึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความศาลฎีกา

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th