ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์สมรสกับจำเลยปี 2519 มีบุตรด้วยกัน 2 คนจำเลยทำให้โจทก์ต้องรับโทษทางวินัย ได้รับความเสียหายถูกดูหมิ่นเกลียดชังกีดกันไม่ให้โจทก์มีโอกาสพบกับบุตรทั้งสอง ยุยงให้บุตรทั้งสองเกลียดชังโจทก์ เป็นการกระทำอันเป็นปฏิปักษ์ต่อการที่จะเป็นสามีภริยากันอย่างร้ายแรง โจทก์สมควรเป็นผู้อุปการะเลี้ยงดูบุตรทั้งสอง ขอให้พิพากษาให้โจทก์จำเลยหย่าขาดจากกัน ให้โจทก์เป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรทั้งสองแต่ผู้เดียว หากจำเลยไม่ยอมจดทะเบียนหย่าให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาแทน

จำเลยให้การว่า เมื่อประมาณเดือนกันยายน 2531 จำเลยทราบว่าโจทก์อุปการะเลี้ยงดูและยกย่องหญิงอื่นเป็นภริยา ที่จำเลยร้อยเรียนผู้บังคับบัญชาของโจทก์เพื่อต้องการให้โจทก์เลิกอุปการะเลี้ยงดูและยกย่องหญิงอื่นเป็นภริยาและกลับมาอุปการะเลี้ยงดูจำเลยกับบุตรทั้งสอง จำเลยมิได้กลั่นแกล้งโจทก์ จึงไม่มีเหตุฟ้องหย่า โจทก์ไม่มีความเหมาะสมที่จะเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรทั้งสองขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้โจทก์กับจำเลยหย่าขาดกัน ให้เด็กหญิงมนินทิรา กาญจนไพรดี และเด็กชายรุ่งโรจน์ กาญจนไพรดีบุตรทั้งสองอยู่ในอำนาจปกครองของจำเลยแต่ผู้เดียว โดยให้โจทก์มีสิทธิเยี่ยมเยียนได้ตามสมควร ให้โจทก์ส่งเงินอุปการะเลี้ยงดูบุตรคนละ 1,500 บาท ต่อเดือน จนกว่าจะบรรลุนิติภาวะ

จำเลย อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ พิพากษากลับ ให้ยก ฟ้อง

โจทก์ ฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีเยาวชนและครอบครัววินิจฉัยว่า การที่โจทก์กับจำเลยต้องแยกกันอยู่มีมูลเหตุอันเกิดแต่โจทก์ที่ไปติดพันหญิงอื่นฉันชู้สาวถึงขั้นยกย่องเป็นภริยา ทั้ง ๆ ที่โจทก์กับจำเลยยังมิได้หย่าขาดจากกัน ย่อมเป็นสิทธิของจำเลยที่จะหึงหวงหรือป้องกันมิให้โจทก์ทอดทิ้งตนและบุตร การที่จำเลยร้องเรียนต่อผู้บังคับบัญชาของโจทก์ไปเกี่ยวกับหญิงอื่นฉันชู้สาวขอให้โอนย้ายโจทก์กลับมาเพื่อจะได้อยู่ร่วมกัน อันแสดงให้เห็นเจตนาของจำเลยว่าต้องการที่จะให้โจทก์เลิกยุ่งเกี่ยวกับหญิงอื่นกลับมาให้ความรักความอบอุ่นแก่ครอบครัว ซึ่งผู้บังคับบัญชาก็ได้ว่ากล่าวตักเตือนโจทก์ แต่โจทก์ก็มิได้ปฏิบัติตัวให้ดีขึ้น จำเลยจึงต้องร้องเรียนต่อผู้บังคับบัญชาของโจทก์อีกหลายครั้งก็เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาว่ากล่าวตักเตือนให้โจทก์สำนึกในการกระทำดังกล่าว แต่โจทก์ก็ไม่นำพาจนถูกผู้บังคับบัญชาสั่งลงทัณฑ์ทางวินัย และการที่โจทก์ไม่ยอมเลิกเกี่ยวข้องกับนางสาวกัลยา กลับรับรองยกย่องเป็นภริยา แสดงเป็นที่ประจักษ์แก่คนทั่วไปอีกทั้งยังยินยอมเห็นดีเห็นชอบให้นางสาวกัลยา แสดงตนเทียบฐานะเสมอจำเลยซึ่งเป็นภริยาที่ชอบด้วยกฎหมายโดยนางสาวกัลยา ใช้สรรพนามแทนตนว่า "แม่" ต่อบุตรทั้งสองของโจทก์และจำเลย ย่อมเป็นเรื่องเกินกว่าที่จำเลยจะยอมรับได้ที่จำเลยกีดกัน หลบเลี่ยง มิให้โจทก์พบปะบุตร จึงมีเหตุผลที่จะกระทำได้ โจทก์จะอ้างเหตุดังกล่าวว่าเป็นกรณีจำเลยกระทำการเป็นปฏิบักษ์ต่อการเป็นสามีภริยากันอย่างร้ายแรงย่อมไม่ได้

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th