ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความให้จำเลยชำระเงิน 1,500,000 บาท แก่โจทก์ คดีถึงที่สุดแล้ว แต่จำเลยไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา โจทก์ขอให้บังคับคดีและนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์สินของจำเลยออกขายทอดตลาดชำระหนี้โจทก์ตามคำพิพากษา ต่อมาวันที่ 28 กรกฎาคม 2558 โจทก์ยื่นคำร้องขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีคิดดอกเบี้ยจากจำเลยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 1,500,000 บาท นับแต่วันผิดนัดตามสัญญาประนีประนอมยอมความ เจ้าพนักงานบังคับคดีมีคำสั่งว่าไม่ปรากฏเรื่องการคิดดอกเบี้ยผิดนัดในสัญญาประนีประนอมยอมความ ให้ยกคำร้อง โจทก์จึงยื่นคำร้องขอให้วินิจฉัยว่าโจทก์มีสิทธิคิดดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 1,500,000 บาท นับแต่วันที่จำเลยผิดนัดได้หรือไม่

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า คู่ความไม่ได้มีข้อตกลงใด ๆ เรื่องดอกเบี้ยระหว่างผิดนัด โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกดอกเบี้ย เจ้าพนักงานบังคับคดีมีคำสั่งยกคำร้องชอบด้วยสัญญาประนีประนอมยอมความแล้ว ให้ยกคำร้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในศาลชั้นต้นและชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังได้ว่า โจทก์กับจำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันว่า จำเลยตกลงชำระเงิน 1,500,000 บาท แก่โจทก์ โดยโจทก์ยอมผ่อนผันให้จำเลยขายที่ดินสองแปลงเป็นระยะเวลา 2 ปี นับแต่วันทำสัญญาประนีประนอมยอมความ เพื่อให้จำเลยหาเงินมาชำระหนี้แก่โจทก์ หากจำเลยขายที่ดินทั้งสองแปลงได้ภายใน 2 ปี จำเลยจะชำระหนี้ให้โจทก์ 1,500,000 บาท โดยโจทก์ไม่คิดดอกเบี้ยจากจำเลย หากจำเลยผิดนัดไม่ปฏิบัติตามสัญญา ให้โจทก์มีสิทธิบังคับคดีได้ทันที โจทก์และจำเลยไม่ติดใจเรียกร้องสิ่งใดอีก และศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาตามยอม ต่อมาจำเลยผิดนัดไม่ชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า โจทก์มีสิทธิคิดดอกเบี้ยจากจำเลยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันผิดนัดตามสัญญาประนีประนอมยอมความ เห็นว่า แม้สัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์กับจำเลย ข้อ 2 และข้อ 3 มีข้อความระบุว่า หากจำเลยขายที่ดินทั้งสองแปลงได้ภายในระยะเวลา 2 ปี จำเลยจะชำระหนี้ให้โจทก์ 1,500,000 บาท โดยโจทก์ไม่คิดดอกเบี้ยจากจำเลย หากจำเลยผิดนัดไม่ปฏิบัติตามสัญญา ให้โจทก์มีสิทธิบังคับคดีได้ทันทีก็ตาม แต่ตามสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวมิได้กำหนดไว้ว่า หากจำเลยผิดนัดไม่ปฏิบัติตามสัญญาแล้ว ให้โจทก์มีสิทธิคิดดอกเบี้ยจากจำเลยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี แสดงว่าคู่สัญญามิได้ประสงค์ที่จะให้มีการคิดดอกเบี้ยเมื่อมีการผิดนัด จะตีความสัญญาประนีประนอมยอมความว่า หากจำเลยไม่ชำระหนี้ให้โจทก์ภายในระยะเวลา 2 ปี นับแต่วันทำสัญญาแล้ว จำเลยต้องรับผิดชำระดอกเบี้ยในกรณีผิดนัดด้วยนั้น เป็นการตีความเพื่อให้จำเลยรับผิดเพิ่มขึ้นซึ่งตามสัญญามิได้กำหนดความรับผิดในส่วนดอกเบี้ยไว้ ย่อมไม่ชอบด้วยหลักของการตีความ ทั้งตามสัญญาข้อ 5 มีข้อความระบุด้วยว่า โจทก์และจำเลยไม่ติดใจเรียกร้องสิ่งใดอีก ยิ่งแสดงให้เห็นเจตนาของโจทก์ได้ว่าไม่ติดใจเรียกร้องสิ่งอื่นใดนอกเหนือไปจากจำนวนเงิน 1,500,000 บาท ตามที่ตกลงกันเท่านั้น โจทก์จึงไม่มีสิทธิคิดดอกเบี้ยจากจำเลยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ที่ศาลล่างทั้งสองมีคำสั่งและคำพิพากษาต้องกันมาให้ยกคำร้องของโจทก์นั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา พ.1001/2559

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th