ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352, 91ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์เป็นเงิน 194,540 บาท แก่ผู้เสียหาย

จำเลยให้การปฏิเสธ

ระหว่างพิจารณานางสงวน พงษ์พานิช ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมศาลชั้นต้นอนุญาต

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 352 จำเลยเป็นน้องผู้เสียหาย ให้ลงโทษจำเลยกระทงละ 1 ปีเรียงกระทงลงโทษแล้วจำคุกจำเลย 2 ปี ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยักยอกไปรวม 194,540 บาท แก่ผู้เสียหาย

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 วรรคแรก ให้จำคุกจำเลยเพียงกระทงเดียวมีกำหนด 1 ปี นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ร่วมและจำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีคงมีปัญหาขึ้นมาสู่ ศาลฎีกาตามฎีกาของโจทก์ร่วมว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดสองกรรมต่างกันหรือไม่และตามฎีกาข้อ 2 ข.ของจำเลยที่ศาลฎีกามีคำสั่งให้รับเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า การที่จำเลยรับทรัพย์สินและเงินของโจทก์ร่วมไว้แล้วไม่คืนให้เมื่อถูกทวงถามจะเป็นความผิดฐานยักยอกหรือไม่ ได้พิเคราะห์คำฟ้องของโจทก์ประกอบกับข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวนที่ว่า เมื่อระหว่างวันที่ 3 ตุลาคม2526 ถึงเดือนพฤษภาคม 2529 ขณะโจทก์ร่วมถูกฟ้องคดีอาญาในความผิดเกี่ยวกับเพศ จำเลยได้รับฝากทรัพย์สิ่งของต่าง ๆ และเงินจำนวนตามฟ้องไว้จากโจทก์ร่วม เมื่อเดือนมิถุนายน 2529 หลังจากพ้นคดีแล้วโจทก์ร่วมไปทวงทรัพย์สินที่ฝากไว้คืนจากจำเลยแต่จำเลยไม่คืนให้แล้วเห็นว่า กรณีเป็นเรื่องโจทก์ร่วมและจำเลยฝากทรัพย์กัน ดังนั้นเงินทั้งหมดที่โจทก์ร่วมฝากไว้จำเลยผู้รับฝากจึงมีสิทธิที่จะนำออกใช้อย่างไรก็ได้ หากจำต้องคืนแก่โจทก์ร่วมให้ครบตามจำนวนเท่านั้นไม่ปรากฏว่าจำเลยมีเจตนาทุจริต เพียงแต่เมื่อโจทก์ร่วมทวงถามจำเลยไม่คืนให้ จึงเป็นเรื่องที่โจทก์ร่วมจะต้องฟ้องเรียกคืนจากจำเลยในทางแพ่ง การที่จำเลยนำเงินที่รับฝากนั้นออกใช้หรือไม่คืนให้เมื่อถูกทวงถามหาเป็นความผิดอาญาฐานยักยอกไม่ จึงไม่อาจสั่งในคดีนี้ให้จำเลยคืนเงินจำนวนดังกล่าวให้แก่โจทก์ร่วมได้ส่วนการรับฝากทรัพย์สินอื่นนั้น เมื่อข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ฟังมาได้ความว่า โจทก์ร่วมทวงถามแล้ว จำเลยไม่คืนให้โดยเจตนาทุจริตจึงเป็นความผิดฐานยักยอก ฎีกาของจำเลยฟังขึ้นบางส่วน เมื่อจำเลยคงมีความผิดฐานยักยอกสร้อยคอทองคำ แหวนทองคำ และพระเครื่องของโจทก์ร่วม มีมูลค่าทั้งสิ้นเพียง 29,250 บาท ทั้งจำเลยเป็นน้องร่วมมารดาของโจทก์ร่วม ระหว่างโจทก์ร่วมต้องคดีจำเลยก็ให้ความช่วยเหลือมาโดยตลอด โทษที่ศาลอุทธรณ์วางแก่จำเลยจึงหนักเกินไป ศาลฎีกาเห็นสมควรกำหนดเสียใหม่ให้เหมาะสมกับพฤติการณ์แห่งคดี และให้โอกาสจำเลยกลับตัวเป็นคนดีโดยให้รอการลงโทษจำคุกไว้

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำคุกจำเลยมีกำหนด 3 เดือน และให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ 29,250 บาทแก่โจทก์ร่วม นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th