ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้อง ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339, 340 ตรี, 288, 289, 80, 90 ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21พฤศจิกายน 2514 ข้อ 14, 15 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา(ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2525 มาตรา 13, 14 ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์รถจักรยานยนต์จำนวน 1 คัน ราคา 35,500 บาท ที่ยังไม่ได้คืนแก่เจ้าของ

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(7) ประกอบกับมาตรา 80 ให้ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์รถจักรยานยนต์ 1 คัน ราคา 35,500 บาท ที่ยังไม่ได้คืนแก่เจ้าของ

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "พิเคราะห์แล้ว ปัญหาจะต้องวินิจฉัยมีว่าจำเลยได้กระทำความผิดตามฟ้องโจทก์หรือไม่ นายเฉลิม แวววงษ์ทอง พยานโจทก์เบิกความว่าหลังจากทราบว่าผู้เสียหายถูกยิงได้รับบาดเจ็บและไปรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร จึงได้ไปเยี่ยมผู้เสียหายที่โรงพยาบาลดังกล่าว ได้รับคำบอกเล่าจากผู้เสียหายว่า วันเวลาเกิดเหตุจำเลยได้นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ผู้เสียหายไประหว่างทางจำเลยได้ชิงเอารถจักรยานยนต์ที่ผู้เสียหายขับขี่ไปและใช้อาวุธปืนยิงทำร้ายผู้เสียหาย เมื่อไปดูที่เกิดเหตุในวันรุ่งขึ้นแล้วจึงได้ไปแจ้งความต่อเจ้าพนักงานตำรวจที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอส่องดาวในวันเดียวกัน สำหรับนายชัชชัย แวววงษ์ทอง ผู้เสียหาย โจทก์ไม่ได้ตัวมาเบิกความเป็นพยาน คงอ้างส่งบันทึกคำให้การชั้นสอบสวนและบันทึกการชี้ตัวของผู้เสียหายเป็นพยาน ปรากฏตามเอกสารหมาย จ.3 และ จ.4 ตามลำดับ ซึ่งตามบันทึก คำให้การชั้นสอบสวนดังกล่าวได้ความว่าวันเวลาเกิดเหตุผู้เสียหายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์พาจำเลยไปหาเพื่อนจำเลยที่อำเภอส่องดาว ระหว่างทางจำเลยได้ชิงเอารถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายและใช้อาวุธปืนยิงทำร้ายผู้เสียหายและเมื่อจับกุมจำเลยได้พนักงานสอบสวนได้ให้ผู้เสียหายชี้ตัวจำเลย ผู้เสียหายชี้ตัวได้ถูกต้อง นอกจากพยานบุคคลและพยานเอกสารดังกล่าวแล้ว โจทก์ไม่มีพยานอื่นเบิกความว่าจำเลยเป็นคนร้ายชิงทรัพย์ผู้เสียหาย เห็นว่า ทั้งคำเบิกความของนายเฉลิม บันทึกคำให้การชั้นสอบสวนและบันทึกการชี้ตัวของผู้เสียหายล้วนเป็นพยานบอกเล่ามีน้ำหนักน้อย เมื่อโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานอื่นมาสืบประกอบให้มั่นคงก็ไม่อาจฟังลงโทษจำเลยได้"

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th