สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5423/2541

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5423/2541

ประมวลกฎหมายอาญา ม. 334 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 139, 140, 537

การที่จำเลยเป็นผู้เช่าที่ดินของผู้เสียหาย มีผลเพียง แต่ทำให้จำเลยเป็นผู้ครอบครองที่ดินดังกล่าวในสภาพ อสังหาริมทรัพย์เท่านั้น เมื่อที่ดินถูกขุดดินที่ได้ย่อม เปลี่ยนสภาพเป็นสังหาริมทรัพย์ และผู้เสียหายไม่ได้มอบการ ครอบครองดินที่เป็นสังหาริมทรัพย์ให้จำเลยครอบครองดินดังกล่าวจึงยังอยู่ในความครอบครองของผู้เสียหาย การที่ จำเลยเอา ดินดังกล่าวไปขายโดยทุจริต เป็นการแสวงหาประโยชน์ ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย จึงเป็นความผิดฐานลักทรัพย์

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 และให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์จำนวน 300,000 บาท แก่ผู้เสียหาย

จำเลยให้การปฏิเสธ

ระหว่างพิจารณา นายบุญทำ บริโภค ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาต

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335(1) วรรคแรก จำคุก 1 ปี 6 เดือน ให้จำเลยนำดินมาถมในที่ดินของโจทก์ร่วมและผู้เสียหายให้อยู่ในสภาพเดิม หากไม่สามารถกระทำได้ให้ชำระค่าเสียหายเป็นเงิน 275,000 บาท แก่โจทก์ร่วมและผู้เสียหาย

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าเป็นที่ยุติในเบื้องต้นว่าเมื่อวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุตามฟ้อง จำเลยขุดเอาดินทรายในที่ดินโฉนดเลขที่ 9424 เป็นพื้นที่กว้าง30 เมตร ยาว 265.50 เมตร ลึก 1.50 เมตร คิดเป็นเงิน300,000 บาท ของโจทก์ร่วมและผู้เสียหายไปในขณะที่จำเลยเป็นผู้เช่าที่ดินแปลงดังกล่าว แล้วนำดินไปขายโดยเจตนาทุจริต

คดีมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามที่จำเลยฎีกาเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานลักทรัพย์หรือไม่ เห็นว่าการที่จำเลยเป็นผู้เช่าที่ดินของโจทก์ร่วมและผู้เสียหายก็เพียงแต่ทำให้จำเลยเป็นผู้ครอบครองที่ดินดังกล่าวในสภาพอสังหาริมทรัพย์เท่านั้น เมื่อที่ดินถูกขุด ดินที่ได้ย่อมเปลี่ยนสภาพเป็นสังหาริมทรัพย์ และโจทก์ร่วมกับผู้เสียหายไม่ได้มอบการครอบครองดินที่เป็นสังหาริมทรัพย์ให้จำเลยครอบครอง ดินดังกล่าวจึงยังอยู่ในความครอบครองของโจทก์ร่วมและผู้เสียหาย ดังนั้น การที่จำเลยเอาดินดังกล่าวไปขาย อันเป็นการแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายจึงเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ และความผิดฐานลักทรัพย์เป็นความผิดอันยอมความกันไม่ได้ การที่โจทก์ร่วมและผู้เสียหายตกลงอะไรกับจำเลยภายหลังจำเลยกระทำความผิดแล้ว จึงไม่อาจทำให้ความผิดฐานลักทรัพย์ระงับ

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - พนักงานอัยการ จังหวัด ปราจีนบุรี โจทก์ - โจทก์ร่วม โจทก์ - นาย บุญ ทำ บริโภค จำเลย - นาย โสน สาดา

ชื่อองค์คณะ ไชยวัฒน์ สัตยาประเสริฐ บุญธรรม อยู่พุก บุรินทร์ โชคเกิด

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th