สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5462/2536

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5462/2536

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 132, 197, 198

การที่จำเลยไม่ยื่นคำขอให้ศาลมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดยื่นคำให้การแก้ฟ้องแย้งนั้น ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 198 วรรคสอง ให้ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดี ทั้งนี้โดยมีวัตถุประสงค์มิให้จำเลย (โจทก์ฟ้องแย้ง) ปล่อยปละละเลยไม่ดำเนินคดีของตนภายในเวลาที่กำหนด แต่ศาลจะมีคำสั่งจำหน่ายคดีหรือไม่อยู่ในดุลพินิจ ดังนั้นตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาจำเลยก็อาจยื่นคำขอเพื่อให้ศาลมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดยื่นคำให้การแก้ฟ้องแย้งได้ ศาลมีคำสั่งไม่รับคำให้การแก้ฟ้องแย้งของโจทก์เนื่องจากยื่นเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลายื่นคำให้การ ซึ่งมีผลเท่ากับว่าโจทก์ขาดนัดยื่นคำให้การแก้ฟ้องแย้ง แม้จำเลยจะไม่ได้ยื่นคำขอให้ศาลมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดยื่นคำให้การแก้ฟ้องแย้ง แต่หลังจากศาลชั้นต้นทำการชี้สองสถานกำหนดวันนัดสืบพยานแล้วจำเลยก็ได้มาดำเนินกระบวนพิจารณาตามนัดทุกครั้ง ซึ่งถือว่าจำเลยได้แสดงให้เห็นถึงความประสงค์ในการดำเนินคดีต่อไปแล้ว ทั้งศาลก็ได้ทำการสืบพยานโจทก์จำเลยตามประเด็นข้อพิพาทที่กำหนดไว้จนเสร็จการพิจารณาคดี และนัดฟังคำพิพากษาแล้วจึงไม่ชอบที่จะมีคำสั่งจำหน่ายคดีฟ้องแย้งของจำเลยและแก้ประเด็นข้อพิพาทใหม่

เนื้อหาฉบับเต็ม

กรณีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องให้จำเลยรับผิดตามสัญญาเช่าซื้อที่ดิน ขอให้บังคับจำเลยเรียกกรรมสิทธิ์ในที่ดินเนื้อที่ 40 ตารางวา ซึ่งเป็นถนนทางเข้าออกที่ดินของโจทก์สู่ถนนสรงประภาคืนจากนายคมเดช และให้โจทก์เข้าออกสู่ถนนดังกล่าวได้โดยไม่ถูกปิดกั้น ให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหาย 200,000 บาทแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าชำระเสร็จ และให้จำเลยโอนที่ดินโฉนดเลขที่ 56553 เขตบางเขน(ตลาดขวัญ) กรุงเทพมหานคร เนื้อที่ 2 ไร่ ให้แก่โจทก์ตามสัญญาเช่าซื้อโดยให้จำเลยรับเงินค่าที่ดินส่วนที่เหลือ 235,000 บาทจากโจทก์ทันที มิฉะนั้นให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาของจำเลย

จำเลยให้การและแก้ไขคำให้การและฟ้องแย้งว่า โจทก์ผิดนัดชำระค่าเช่าซื้อ 2 งวดติดกัน จำเลยบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อแล้วขอให้ยกฟ้อง กับบังคับให้โจทก์และบริวารย้ายออกไปจากที่ดินของจำเลยให้โจทก์ใช้ค่าเสียหายแก่จำเลยอัตราเดือนละ 10,000 บาท นับแต่วันฟ้องแย้งเป็นต้นไปจนกว่าจะย้ายออกไปเสร็จ

โจทก์ยื่นคำให้การแก้ฟ้องแย้งเมื่อพ้นกำหนดเวลา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับคำให้การแก้ฟ้องแย้ง

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยไปจดทะเบียนโอนที่ดินโฉนดเลขที่ 56553 เล่มที่ 546 หน้า 53 ตำบลสีกัน (บ้านใหม่)อำเภอบางเขน (ตลาดขวัญ) กรุงเทพมหานคร เนื้อที่ 2 ไร่ ให้แก่โจทก์และให้จำเลยรับเงินค่าที่ดินส่วนที่เหลือ 235,000 บาท แก่โจทก์หากจำเลยไม่ไปจดทะเบียนโอนให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาแทนคำขออื่นให้ยก

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นและคำสั่งศาลชั้นต้นลงวันที่ 6 ธันวาคม 2531 ให้ศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาตามฎีกาของโจทก์ว่า การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งลงวันที่ 6 ธันวาคม 2531 ให้จำหน่ายคดีฟ้องแย้งของจำเลยออกเสียจากสารบบความเนื่องจากจำเลยไม่ยื่นคำขอในกำหนด15 วัน เพื่อให้ศาลมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดยื่นคำให้การแก้ฟ้องแย้งและแก้ประเด็นข้อพิพาทใหม่แล้วมีคำพิพากษาไปนั้นชอบด้วยมาตรา 198แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งหรือไม่ พิเคราะห์แล้วเห็นว่าการที่จำเลยไม่ยื่นคำขอให้ศาลมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดยื่นคำให้การแก้ฟ้องแย้งนั้น มาตรา 198 วรรคสอง ให้ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดีเห็นได้ว่ามีวัตถุประสงค์มิให้จำเลย (โจทก์ฟ้องแย้ง) ปล่อยปละละเลยไม่ดำเนินคดีของตนภายในเวลาที่กำหนด แต่ศาลจะมีคำสั่งจำหน่ายคดีหรือไม่อยู่ในดุลพินิจ คดีนี้ปรากฏว่าศาลมีคำสั่งไม่รับคำให้การแก้ฟ้องแย้งของโจทก์เนื่องจากยื่นเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลายื่นคำให้การซึ่งมีผลเท่ากับว่าโจทก์ขาดนัดยื่นคำให้การ แม้จำเลยจะไม่ได้ยื่นคำขอให้ศาลมีคำสั่งว่า โจทก์ขาดนัดยื่นคำให้การแก้ฟ้องแย้งแต่หลังจากศาลชั้นต้นทำการชี้สองสถานกำหนดวันนัดสืบพยานแล้วจำเลยก็ได้มาดำเนินกระบวนพิจารณาตามนัดทุกครั้ง ซึ่งถือว่าจำเลยได้แสดงให้เห็นถึงความประสงค์ในการดำเนินคดีต่อไปแล้ว ทั้งศาลก็ได้ทำการสืบพยานโจทก์จำเลยตามประเด็นข้อพิพาทที่กำหนดไว้จนเสร็จการพิจารณาคดีและนัดฟังคำพิพากษาแล้วจึงไม่ชอบที่จะมีคำสั่งจำหน่ายคดีฟ้องแย้งของจำเลยและแก้ประเด็นข้อพิพาทใหม่ สำหรับการยื่นคำขอให้ศาลมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดยื่นคำให้การแก้ฟ้องแย้งนั้น เมื่อเห็นว่าการสั่งจำหน่ายคดีหรือไม่อยู่ในดุลพินิจของศาล ดังนั้น ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาจำเลยก็อาจยื่นคำขอเพื่อให้ศาลมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดยื่นคำให้การแก้ฟ้องแย้งได้

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - นาวาอากาศตรี อุทัย จันทร์ รูป งาม จำเลย - นาง ละม้าย พูลสวัสดิ์

ชื่อองค์คณะ สมชาย รังสิกรรพุม สังเวียน รัตนมุง ชลอ บุณยเนตร

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE