ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำปรึกษามากกว่า
10,000+
ทนายความตัวจริง
500+


คดีนี้โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่นาพิพาทและเรียกค่าเสียหาย
จำเลยให้การต่อสู้ว่า ที่นาพิพาทและนอกพิพาทไม่ใช่ของโจทก์ แต่เป็นของนายช่วงและนางจันทร์ เลิศลับ นางจันทร์ได้ให้จำเลยเข้าทำนาเพื่อแบ่งผลประโยชน์กัน จำเลยจึงได้เข้าทำนาพิพาทตั้งแต่นั้นมาเป็นเวลา 4 ปีเศษแล้ว นาพิพาทเป็นที่ดินมือเปล่า โจทก์ไม่ฟ้องคดีภายใน 1 ปี โจทก์หมดสิทธิที่จะฟ้องเอาคืนการครอบครองแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
ระหว่างพิจารณานางจันทร์ เลิศลับขอเข้ามาเป็นจำเลยร่วม ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเชื่อว่าที่นาพิพาทเป็นของโจทก์ แต่จำเลยเข้าแย่งการครอบครองมาเกินกว่า 1 ปีแล้ว โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่าที่นาพิพาทเป็นของโจทก์ จำเลยเพิ่งบุกรุก โจทก์ฟ้องคดีไม่เกิน 1 ปี ไม่ขาดสิทธิฟ้องร้องเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครอง พิพากษากลับห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้องต่อไป
จำเลยผู้เดียวฎีกาว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความแล้ว
ศาลฎีกาตรวจสำนวนและประชุมปรึกษาแล้ว คดีนี้จำเลยให้การต่อสู้คดีว่าจำเลยเข้าทำนาพิพาทโดยอาศัยสิทธิของนางจันทร์ เลิศลับ ซึ่งยื่นคำร้องขอเข้ามาเป็นจำเลยร่วม และศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาต ฉะนั้นการที่จำเลยเข้าไปทำนาพิพาทจึงมิใช่เข้าไปยึดถือโดยเจตนาที่จะยึดถือเพื่อตนหากแต่เป็นการเข้าไปครอบครองที่พิพาทแทนจำเลยร่วม เมื่อศาลอุทธรณ์ฟังว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์จำเลยร่วมซึ่งอ้างว่าที่พิพาทเป็นของตนก็มิได้ฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แต่ประการใด คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ชี้ขาดว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ย่อมผูกพันโจทก์ จำเลยและจำเลยร่วมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145คดีฟังเป็นยุติได้ว่า ที่นาพิพาทเป็นของโจทก์ จำเลยซึ่งเข้าทำนาพิพาทโดยอาศัยสิทธิของจำเลยร่วมจึงไม่มีสิทธิใด ๆ ที่จะโต้แย้งโจทก์ได้
พิพากษายืน
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา









