ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาบังคับจำเลยทั้งสองใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ 791,898.75 บาท กับดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในเงินต้น 736,650 บาทนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ

จำเลยทั้งสองให้การมีใจความทำนองเดียวกันว่า นายโสมนัสไม่ใช่ลูกจ้างของนายบุญเยี่ยม นายโสมนัสและนายบุญเยี่ยมไม่มีมรดก จำเลยทั้งสองจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ โจทก์เสียหายทั้งหมดไม่เกิน 10,000บาท ฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมและขาดอายุความ ขอให้พิพากษายกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ 201,487 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2526 จนกว่าจะชำระเสร็จ

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ โดยได้รับอนุญาตให้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถา

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 1 ใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ 101,487 บาท ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 2 นอกจากที่แก้ให้คงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า นายโสมนัสขับรถยนต์ของนายบุญเยี่ยมด้วยความประมาทชนรถยนต์โจทก์ แต่นายโสมนัสไม่ใช่ลูกจ้างและกระทำในทางการที่จ้างของนายบุญเยี่ยม จำเลยที่ 2 ในฐานะทายาทผู้รับมรดกของนายบุญเยี่ยมจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์และวินิจฉัยว่า เมื่อรถยนต์ของโจทก์ถูกชนได้รับความเสียหายต้องเข้าซ่อม ช่วงเวลาที่เสียไประหว่างซ่อม ถือได้ว่าโจทก์ขาดประโยชน์แล้วตั้งแต่บัดนั้นส่วนที่โจทก์เช่ารถยนต์ของบุคคลอื่นมาวิ่งรับส่งคนโดยสารแทนรถยนต์ของโจทก์ต่อไป และต้องเสียค่าเช่าไปนั้น เป็นเพียงเพื่อบรรเทาค่าขาดประโยชน์ที่ต้องสูญเสียไปลงบ้างเท่านั้น ที่ศาลชั้นต้นกำหนดค่าสินไหมทดแทนส่วนนี้เป็นเงิน 100,000 บาท ทั้งที่โจทก์ฟ้องเรียกมาถึง 369,500 บาท จึงเหมาะสมและเป็นคุณแก่จำเลย และในการกำหนดประเด็นข้อพิพาทเพิ่มเติมของศาลชั้นต้นตามรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่ 17 มกราคม 2528 ศาลชั้นต้นไม่ได้กำหนดประเด็นว่านายบุญเยี่ยมเป็นเจ้าของผู้ครอบครองรถยนต์ในขณะเกิดเหตุหรือไม่แต่กำหนดประเด็นว่า นายโสมนัสเป็นลูกจ้างและกระทำในทางการที่จ้างของนายบุญเยี่ยมหรือไม่เท่านั้น ดังนี้ ที่โจทก์ฎีกาว่านายบุญเยี่ยมเป็นเจ้าของผู้ครอบครองรถยนต์ที่นายโสมนัสขับในขณะเกิดเหตุ จำเลยที่ 2 ในฐานะทายาทของนายบุญเยี่ยมจึงต้องรับผิดต่อโจทก์ จึงเป็นฎีกานอกประเด็น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 1 ชดใช้ค่าเสียหาย 201,487 บาทแก่โจทก์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่12 มิถุนายน 2526 จนกว่าจะชำระเสร็จ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th