ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

Lawyer CTA
สมัครเป็นทนายออนไลน์ ง่ายๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย
เข้าถึงผู้ใช้เว็บไซต์กว่า 4 ล้านคน
ให้คำปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ค้นหามาตรา อัปเดตฎีกา ครบ จบ ในที่เดียว
ในทุกๆ ชั่วโมงมีคำปรึกษาใหม่จากลูกความ ที่รอทนายตอบอยู่
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อประมาณเดือนมิถุนายน 2537 จำเลยจ้างโจทก์เข้าทำงานเป็นลูกจ้าง ครั้งสุดท้ายทำหน้าที่เป็นผู้จัดการฝ่ายประจำสำนักกรรมการผู้จัดการ ได้รับค่าจ้างอัตราสุดท้ายเดือนละ55,000 บาท กำหนดจ่ายค่าจ้างทุกวันสิ้นเดือน ต่อมาเมื่อวันที่3 กันยายน 2539 จำเลยได้เลิกจ้างโจทก์โดยโจทก์ไม่ได้กระทำความผิดและไม่ได้บอกกล่าวการเลิกจ้างล่วงหน้าตามกฎหมาย โจทก์จึงมีสิทธิได้รับสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า จำนวน 58 วัน เป็นเงิน106,333 บาท จำเลยไม่ยอมจ่าย นอกจากนี้ในการทำงานกับจำเลยตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2539 ถึงวันที่ 3 กันยายน 2539จำเลยค้างจ่ายค่าจ้างโจทก์จำนวน 3 วัน คิดเป็นเงิน 5,500 บาทขอให้บังคับจำเลยจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าจำนวน106,333 บาท และค่าจ้างค้างจ่ายจำนวน 5,500 บาท ให้แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ

จำเลยให้การว่า จำเลยได้แจ้งการเลิกจ้างให้โจทก์ทราบล่วงหน้าโดยชอบและได้ชำระค่าจ้างให้แก่โจทก์ครบถ้วนแล้ว จำเลยจึงไม่มีนิติสัมพันธ์ใด ๆ กับโจทก์อีก ขอให้ยกฟ้อง

ศาลแรงงานกลางได้กำหนดประเด็นข้อพิพาทว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยบอกกล่าวล่วงหน้าตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดหรือไม่โจทก์มีสิทธิได้รับสินจ้างแทนการบอกกล่าวหรือไม่ และจำเลยยังค้างจ่ายค่าจ้างโจทก์หรือไม่ เพียงใด โดยกำหนดให้จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน

ก่อนถึงวันนัดสืบพยานจำเลย โจทก์ยื่นคำร้องลงวันที่ 14กุมภาพันธ์ 2540 และวันที่ 5 มีนาคม 2540 ขอแก้ไขคำฟ้อง

ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งว่า โจทก์ยื่นคำร้องทั้งสองฉบับหลังจากที่ศาลกำหนดประเด็นข้อพิพาทแล้ว จึงให้ยกคำร้อง

โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ที่โจทก์อุทธรณ์ว่าคำร้องขอแก้ไขคำฟ้องโจทก์เกี่ยวกับการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมเป็นการขอแก้ไขในเรื่องที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนโจทก์จึงมีสิทธิยื่นคำร้องหลังวันกำหนดประเด็นข้อพิพาทนั้นเห็นว่า โจทก์ย่อมรู้อยู่ก่อนยื่นฟ้องแล้วว่าการเลิกจ้างเป็นธรรมหรือไม่ หากโจทก์เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการที่จำเลยเลิกจ้างแล้ว โจทก์ก็ชอบที่จะว่ากล่าวฟ้องร้องจำเลยเป็นคดีมาแต่แรกกรณีเช่นนี้ไม่ถือว่าเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนที่จะอนุญาตให้โจทก์แก้ไขคำฟ้องได้หลังจากที่ศาลแรงงานกลางได้กำหนดประเด็นข้อพิพาทและนัดสืบพยานแล้ว ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 180 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 31

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th