ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำปรึกษามากกว่า
10,000+
ทนายความตัวจริง
500+


โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบุกรุกเข้าไปปลูกโรง 1 หลังในที่ของโจทก์ซึ่งมีราคา 5,000 บาท ขอให้ศาลพิพากษาบังคับจำเลยรื้อถอนโรงดังกล่าว และห้ามเกี่ยวข้องกับที่พิพาท
จำเลยให้การว่า จำเลยครอบครองที่พิพาทมาเกิน 10 ปี ที่พิพาทเป็นของจำเลย โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
ศาลชั้นต้นฟังว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้โจทก์จำเลยพิพาทกันด้วยเรื่องที่ดินราคา5,000 บาท โดยจำเลยต่อสู้ว่าเป็นที่ดินของจำเลย ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย พิพากษายกฟ้องโจทก์ ศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้คู่ความฟังเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2518โจทก์ได้ยื่นฎีกาเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2518 อันเป็นวันก่อนพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2518 มีผลบังคับโดยยื่นฎีกาว่า ตามพยานหลักฐานฟังได้ว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ อันเป็นฎีกาในข้อเท็จจริง ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของโจทก์ในวันเดียวกันว่า "รับฎีกา สำเนาให้จำเลย ให้โจทก์นำส่งสำเนาฎีกาภายในกำหนด 15 วัน มิฉะนั้นถือว่าโจทก์ทิ้งฎีกา"เห็นว่า คดีนี้เป็นคดีมีทุนทรัพย์ และจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทไม่เกินห้าพันบาทเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น โจทก์จึงไม่มีสิทธิฎีกาในข้อเท็จจริง เป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248 ซึ่งใช้อยู่ในวันยื่นฎีกา และคดีไม่มีเหตุยกเว้นให้ฎีกาได้ตามมาตราดังกล่าวการพิจารณาว่าคู่ความมีสิทธิฎีกาได้หรือไม่เพียงไรต้องพิจารณาตามบทกฎหมายและสิทธิในวันยื่นฎีกาเป็นสำคัญ ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 542/2500ระหว่างนายยิ้ม เนื่องจำนงค์ (หม้าย) โจทก์ นายหิรัญ เทศสวัสดิ์ จำเลย ดังนั้นที่ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของโจทก์ จึงเป็นการไม่ชอบ
พิพากษาให้ยกฎีกาของโจทก์ ค่าขึ้นศาลและค่าคำบังคับในชั้นนี้ให้คืนไป
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา









