ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำปรึกษามากกว่า
10,000+
ทนายความตัวจริง
500+


โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้จัดการมรดกของนายชื่นผู้วายชนม์ จำเลยกู้เงินไปจากนายชื่นตามสัญญากู้แล้วไม่ชำระ ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวน 60,000 บาท
จำเลยให้การว่า นายชื่นบังคับจำเลยให้ขายรถยนต์ซึ่งจำเลยมอบไว้เป็นประกันการชำระหนี้ ได้เงิน 60,000 บาท นายชื่นได้รับเงินดังกล่าวไว้เป็นการชำระหนี้ทั้งหมดแล้ว แต่ยังมิได้คืนหนังสือสัญญากู้และทรัพย์สินประกันอื่น ๆ ให้จำเลย
ศาลชั้นต้นงดสืบพยานแล้ววินิจฉัยว่า จำเลยไม่มีใบเสร็จรับเงินเป็นหลักฐานการใช้เงิน และยังมิได้เวนคืนหนังสือสัญญากู้เงิน จำเลยไม่อาจนำสืบถึงการใช้เงินได้พิพากษาให้จำเลยชำระหนี้ให้โจทก์ตามฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาขอให้ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์จำเลย
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยอ้างว่า จำเลยให้การว่าเจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ด้วยรถยนต์แล้ว จึงมีประเด็นว่า เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ด้วยทรัพย์อย่างอื่นหรือไม่ ซึ่งจำเลยมีสิทธินำพยานมาสืบได้ มีปัญหาว่าจำเลยให้การเป็นประเด็นดังกล่าวอ้างหรือไม่ พิเคราะห์แล้ว จำเลยให้การว่า "นายชื่นบังคับให้จำเลยขายรถยนต์โฟคสวาเกน ป.ท.00458 ได้เงิน 60,000 บาท และเงิน 60,000 บาท นายชื่นได้รับไว้เป็นการชำระหนี้เงินกู้ทั้งหมด" เห็นว่าคำให้การดังกล่าวมีความหมายว่านายชื่นได้รับชำระหนี้ด้วยเงินซึ่งได้จากการขายรถยนต์หาใช่ได้รับชำระหนี้ด้วยรถยนต์ไม่ จึงไม่มีประเด็นดังที่จำเลยอ้าง จำเลยไม่มีสิทธินำพยานมาสืบตามข้อกล่าวอ้างนั้น ศาลล่างทั้งสองให้งดสืบพยานโจทก์จำเลยชอบแล้ว
คดีนี้จำเลยฎีกาขอให้ศาลสืบพยาน จึงเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ จำเลยเสียค่าขึ้นศาลอย่างคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ จึงไม่ถูกต้อง ให้คืนค่าขึ้นศาลส่วนที่เกิน
พิพากษายืน
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา








