สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5827/2540

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5827/2540

ประมวลกฎหมายอาญา ม. 80, 218 (1), 358

เมื่อการกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานพยายามวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่นตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 218(1),80แล้ว ก็ไม่จำต้องวินิจฉัยว่าจำเลยกระทำผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358 อีก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80 วรรคสอง ที่บัญญัติว่าผู้ใดพยายามกระทำความผิด ผู้นั้นต้องระวางโทษ สองในสามส่วนของโทษที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น หมายถึงการกำหนดโทษที่จะลงโดยคำนวณโทษจากสองในสามของอัตราโทษที่กฎหมายกำหนด หาใช่ต้องกำหนดโทษความผิดสำเร็จก่อนไม่

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 218, 33 และริบของกลาง

จำเลยให้การปฏิเสธ

ระหว่างพิจารณา นางมุกดา อังคะศิริวานน์หรือฟูมังหรือวิชชาธรผู้เสียหาย ยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 218(1), 80 จำคุก 12 ปี แกลลอนหรือถังใส่น้ำมันเชื้อเพลิงและไม้ขีดไฟของกลางเป็นทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำผิดจึงให้ริบ

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุกจำเลยไว้มีกำหนด6 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังได้ว่า ตามวันเวลาเกิดเหตุมีคนร้ายวางเพลิงเผาห้องคาราโอเกะที่ชั้นที่ 2 ตึกแถวเลขที่ 60/1 ถนนสุขุมวิท ซอย 103 ของนางขาจู แซ่อึ้งและอยู่ ในความครอบครองดูแลของโจทก์ร่วม เป็นเหตุให้ตัวโรงเรือนและทรัพย์สินของโจทก์ร่วมเสียหายเป็นเงิน 274,000 บาท

มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า จำเลยเป็นคนร้ายรายนี้หรือไม่ ศาลฎีกาวินิจฉัยรับฟังว่า คำเบิกความของพยานโจทก์เชื่อมโยงเหตุการณ์ต่าง ๆ สมเหตุผลมีน้ำหนักฟังได้ว่าจำเลยเป็นคนร้ายผู้วางเพลิงเผาห้องเกิดเหตุจริง พยานฐานที่อยู่ของจำเลยไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานโจทก์ได้ ส่วนที่จำเลยฎีกาข้อกฎหมายในทำนองว่า ถ้าศาลฎีกาเห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดก็เป็นเพียงความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358 ซึ่งศาลฎีกามีอำนาจวินิจฉัยลงโทษจำเลยสถานเบาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 192 นั้น เห็นว่า เมื่อการกระทำของจำเลยเป็นความผิดบานพยายามวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่นแล้ว ก็ไม่จำต้องวินิจฉัยว่าจำเลยกระทำผิดฐานทำให้เสียทรัพย์อีก สำหรับข้อกฎหมายที่จำเลยฎีกาประการต่อไปว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยฐานพยายามวางเพลิง ซึ่งมีโทษสองในสามส่วนของความผิดสำเร็จโดยไม่ได้กำหนดโทษความผิดสำเร็จก่อนเป็นการไม่ชอบนั้นเห็นว่า ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80 วรรคสอง บัญญัติว่า"ผู้ใดพยายามกระทำความผิด ผู้นั้นต้องระวางโทษสองในสามส่วนของโทษที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น" หมายถึงการกำหนดโทษที่จะลงโดยคำนวณโทษจากสองในสามของอัตราโทษที่กฎหมายกำหนด หาใช่ต้องกำหนดโทษความผิดสำเร็จก่อนดังที่จำเลยฎีกาไม่

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - พนักงานอัยการ สำนักงาน อัยการ สูงสุด โจทก์ - โจทก์ร่วม โจทก์ - นาง มุกดา อังคะศิริวานนท์หรือฟูมังหรือวิชชาธร จำเลย - นาย สุรพล พ วง สุวรรณ

ชื่อองค์คณะ มงคล สระฏัน อธิราช มณีภาค วุฒิ คราวุฒิ

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th