ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

Lawyer CTA
สมัครเป็นทนายออนไลน์ ง่ายๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย
เข้าถึงผู้ใช้เว็บไซต์กว่า 4 ล้านคน
ให้คำปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ค้นหามาตรา อัปเดตฎีกา ครบ จบ ในที่เดียว
ในทุกๆ ชั่วโมงมีคำปรึกษาใหม่จากลูกความ ที่รอทนายตอบอยู่
เนื้อหาฉบับเต็ม

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ (จำเลย) เด็ดขาดแล้ว เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2531นางสุนารี สันติธรารักษ์ เจ้าหนี้ ยื่นคำขอรับชำระหนี้เป็นค่าหนี้ตามภาระสัญญาค้ำประกันและเงินทดรองจ่ายเป็นเงิน160,757,890.16 บาท จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้

เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นัดตรวจคำขอรับชำระหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 104 แล้วไม่มีผู้ใดโต้แย้งคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้รายนี้

เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนแล้ว เห็นว่า เจ้าหนี้ได้ทำหนังสือสละสิทธิไล่เบี้ยเอาจากลูกหนี้เพื่อต้นเงินและดอกเบี้ยและเพื่อการที่ต้องสูญหายหรือเสียหายไปอย่างใด ๆ เพราะการค้ำประกันการอาวัลตั๋วเงินการจำนองหรือจำนำทรัพย์สินเป็นประกันหนี้ของลูกหนี้และสละสิทธิในการเข้ารับช่วงสิทธิบรรดาที่เจ้าหนี้อื่นมีอยู่เหนือลูกหนี้ มูลหนี้ที่เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ทุกอันดับแม้จะฟังว่ามีอยู่จริงแต่เมื่อเจ้าหนี้ยินยอมสละสิทธิไล่เบี้ยและสละสิทธิในการรับช่วงสิทธิแล้ว เจ้าหนี้จึงไม่มีสิทธิขอรับชำระหนี้ได้ เห็นควรยกคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้เสียทั้งสิ้น ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 107(1)

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วมีคำสั่งให้ยกคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ตามความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์

เจ้าหนี้อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

เจ้าหนี้ฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่คู่ความมิได้โต้แย้งกันฟังได้ยุติว่า เจ้าหนี้เป็นประธานกรรมการของลูกหนี้เจ้าหนี้ได้ค้ำประกันและจำนองที่ดินเป็นประกันหนี้ของลูกหนี้ภายหลังเจ้าหนี้ได้ทำหนังสือสละสิทธิไล่เบี้ยและสละสิทธิในการรับช่วงสิทธิบรรดาที่เจ้าหนี้มีอยู่เหนือลูกหนี้ทุกอันดับให้ไว้แก่บริษัทลูกหนี้

ปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของเจ้าหนี้มีว่า หนังสือตกลงสละสิทธิไล่เบี้ยและสละสิทธิในการรับช่างสิทธิดังกล่าวมีผลใช้บังคับได้หรือไม่เพียงใด เจ้าหนี้ฎีกาว่า แม้เจ้าหนี้และลูกหนี้จะอยู่คนละฐานะตามกฎหมาย แต่ตามความเป็นจริงเจ้าหนี้ในฐานะผู้มีอำนาจกระทำการแทนลูกหนี้ย่อมรู้ถึงฐานะของตนและฐานะของลูกหนี้เป็นอย่างดี หนังสือตกลงสละสิทธิดังกล่าวในใจจริงของเจ้าหนี้มิได้มีเจตนาให้ตนต้องผูกพันตามที่ได้แสดงออกมานั้นซึ่งคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งคือลูกหนี้ได้รู้ถึงเจตนาอันซ่อนอยู่ในใจของเจ้าหนี้อยู่แล้ว หนังสือตกลงสละสิทธิจึงตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 154 การที่ศาลอุทธรณ์นำมาตรา 155 วรรคแรก ใช้บังคับจึงเป็นการปรับบทมาตราผิดนั้นเห็นว่ากรณีตามมาตรา 154 เป็นเรื่องระหว่างคู่สัญญาด้วยกันเองแต่ตามข้อเท็จจริงในคดีนี้การที่เจ้าหนี้ทำหนังสือสละสิทธิไล่เบี้ยและสละสิทธิในการรับช่วงสิทธิบรรดาที่เจ้าหนี้มีเหนือลูกหนี้นั้นเนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทยเข้ามาตรวจกิจการของลูกหนี้แล้วพบว่าเจ้าหนี้ได้เอาเงินของลูกหนี้ไปซื้อที่ดินมาเป็นของเจ้าหนี้เป็นส่วนตัวจึงให้เจ้าหนี้ทำหนังสือสละสิทธิดังกล่าวให้ไว้แก่ลูกหนี้เพื่อเจ้าหนี้จะได้บริหารงานของลูกหนี้ต่อไป หากเป็นการแสดงเจตนาลวงด้วยสมรู้กับลูกหนี้ทำหนังสือดังกล่าวขึ้นดังที่เจ้าหนี้กล่าวอ้าง แต่ธนาคารแห่งประเทศไทยและเจ้าหนี้อื่นซึ่งเป็นบุคคลภายนอกเป็นผู้ทำการโดยสุจริตและต้องเสียหายแต่การแสดงเจตนาลวงนั้นเชื่อว่าเจ้าหนี้ได้สละสิทธิดังกล่าวจริง เจ้าหนี้จึงต้องห้ามมิให้ยกข้อไม่สมบูรณ์นี้ขึ้นเป็นข้อต่อสู้ได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 155 วรรคแรก เจ้าหนี้จึงไม่อาจขอรับชำระหนี้ได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 94

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th