ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำปรึกษามากกว่า
10,000+
ทนายความตัวจริง
500+


ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าผู้คัดค้านรับโอนที่พิพาทจากจำเลยโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทน ผู้คัดค้านจึงได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติล้มละลายมาตรา 114 มีคำสั่งให้ยกคำร้องของผู้ร้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้เพิกถอนการโอนที่พิพาท ผู้คัดค้านฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า "ที่ดินที่พิพาทเป็นทรัพย์ที่จำเลยลูกหนี้ได้มาระหว่างที่ยังเป็นบุคคลล้มละลายอยู่ ที่ดินที่พิพาทจึงเป็นทรัพย์สินในคดีล้มละลายอันอาจแบ่งแก่เจ้าหนี้ได้ตามมาตรา 109(2) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายพุทธศักราช 2483 ซึ่งตามมาตรา 23 บัญญัติว่าลูกหนี้ต้องส่งมอบให้แก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ และมาตรา 24 บัญญัติห้ามมิให้ลูกหนี้กระทำการใด ๆ เกี่ยวกับทรัพย์สิน เว้นแต่จะได้กระทำตามคำสั่งหรือความเห็นชอบของศาล เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ผู้จัดการทรัพย์หรือที่ประชุมเจ้าหนี้ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติล้มละลาย การที่จำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ในคดีล้มละลายได้ที่ดินที่พิพาทมาแล้วโอนขายให้แก่ผู้คัดค้านไป จึงเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งมาตราดังกล่าว ทั้งในคดีที่จำเลยถูกฟ้องเป็นบุคคลล้มละลายปรากฏว่ามีเจ้าหนี้ยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้รวมเป็นเงิน 670,000 บาทเศษ แต่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รวบรวมทรัพย์สินของจำเลยผู้เป็นลูกหนี้ไม่ได้เลย การโอนทรัพย์สินดังกล่าวจึงเห็นได้ว่าจำเลยผู้ล้มละลายได้กระทำโดยมุ่งหมายให้ผู้คัดค้านซึ่งมีฐานะเป็นเจ้าหนี้ได้เปรียบแก่เจ้าหนี้อื่น เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงมีอำนาจขอให้ศาลเพิกถอน การโอนทรัพย์สินรายนี้ได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลายพุทธศักราช 2483 มาตรา 115 และในการสั่งเพิกถอนการโอนตามมาตรา 115นี้ศาลไม่ต้องพิจารณาว่าผู้รับโอนโดยสุจริตและมีค่าตอบแทนหรือไม่"
พิพากษายืน
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา
แหล่งที่มา เนติบัณฑิตยสภา









