คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 589/2525
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 320, 807, 810, 812 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 138, 182, 183, 225
ตามคำให้การของจำเลย จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ว่าจำเลยมีสิทธิที่จะนำใบหุ้นที่ซื้อในวันอื่นส่งมอบให้โจทก์แทนได้ ในชั้นชี้สองสถาน ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นพิพาทไว้ว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุมหรือไม่ และจำเลยจัดซื้อหุ้นให้โจทก์ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2521 จริงหรือไม่ ต่อมาได้เพิ่มประเด็นพิพาทอีกข้อหนึ่งว่าโจทก์ได้รับความเสียหายเพียงใดหรือไม่และก่อนมีการสืบพยาน ศาลชั้นต้นได้จดรายงานกระบวนพิจารณาว่า คู่ความมีประเด็นโต้เถียงกันเพียงว่าหุ้นตามใบหุ้นและเลขที่ตามหนังสือที่จำเลยแจ้งให้โจทก์ไปรับใบหุ้นนั้น จำเลยได้มีการซื้อผ่านตลาดหลักทรัพย์ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2521 หรือไม่ โดยโจทก์ว่าไม่มีการซื้อในวันดังกล่าว จำเลยว่ามีการซื้อในวันดังกล่าวจริง คดีหาได้มีประเด็นข้อพิพาทว่าจำเลยมีสิทธิจะนำใบหุ้นที่ซื้อในวันอื่นส่งมอบให้โจทก์แทนได้หรือไม่แต่อย่างใด ดังนั้นในชั้นอุทธรณ์ ที่จำเลยอุทธรณ์ว่าจำเลยไม่จำเป็นต้องส่งมอบใบหุ้นที่ซื้อในวันที่ 27 พฤศจิกายน2521 โดยมอบใบหุ้นที่ซื้อในวันอื่นให้โจทก์แทนได้ จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น การที่ศาลอุทธรณ์ตั้งประเด็นและวินิจฉัยให้ จึงเป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225
ในประเด็นที่โต้เถียงกันตามที่ศาลชั้นต้นได้จดไว้ในรายงานกระบวนพิจารณา.โจทก์จำเลยมิได้ตกลงท้ากันให้เป็นข้อแพ้ชนะกันในคดี และยังมีประเด็นในข้ออื่นที่ศาลจะต้องวินิจฉัยต่อไปอีก ศาลจึงพิพากษาคดีให้ผู้ที่เป็นฝ่ายแพ้ในประเด็นดังกล่าวเป็นผู้แพ้คดีหาได้ไม่
โจทก์มิได้ฟ้องให้จำเลยใช้ค่าเสียหายอันเกิดแต่การชำระหนี้ไม่ถูกต้องหรือผิดนัดตามสัญญาตัวแทน โจทก์เพียงแต่ฟ้องให้จำเลยคืนเงินค่าหุ้นที่จำเลยคิดเกินไปเท่านั้นโจทก์จึงถือเอาราคาหุ้นในวันที่จำเลยส่งมอบหุ้นให้โจทก์มาเป็นหลักคำนวณว่าจำเลยคิดเงินค่าหุ้นเกินไปหาได้ไม่
แม้จำเลยนำสืบรับฟังไม่ได้ว่าหุ้นที่จำเลยส่งมอบให้โจทก์ได้มีการซื้อในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2521 แต่ข้อกล่าวอ้างของโจทก์ตามฟ้องที่ว่าจำเลยคิดเงินค่าหุ้นจากโจทก์เกินไปซึ่งจำเลยให้การปฏิเสธนั้น ภาระการพิสูจน์ในข้อนี้ย่อมตกอยู่แก่โจทก์ โดยโจทก์จะต้องนำพยานหลักฐานมาพิสูจน์ให้ศาลเห็นว่าหุ้นที่จำเลยส่งมอบให้โจทก์นั้นได้มีการซื้อในวันที่เท่าใดแน่ และมีราคาซื้อขายกันเท่าใด เพื่อที่ศาลจะได้นำมาเป็นหลักในการวินิจฉัยว่าจำเลยในฐานะตัวแทนของโจทก์คิดเงินค่าหุ้นจากโจทก์เกินไปจริงหรือไม่ และเป็นหลักในการคำนวณว่าได้มีการคิดเงินค่าหุ้นเกินไปเป็นจำนวนมากน้อยเท่าใดหรือไม่อย่างไรทั้งนี้ เพราะราคาหุ้นแต่ละวันมีการขึ้นลงไม่แน่นอนเมื่อโจทก์นำสืบไม่ได้ว่าหุ้นที่จำเลยมอบให้โจทก์นั้นเป็นหุ้นที่ซื้อในวันที่เท่าใด และในวันนั้นมีราคาซื้อขายกันเท่าใด ข้อกล่าวอ้างของโจทก์ที่ว่าจำเลยคิดเงินค่าหุ้นจากโจทก์เกินไปจึงรับฟังไม่ได้
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์จำเลยทำสัญญาให้จำเลยเป็นตัวแทนของโจทก์ในการจัดหาซื้อขายหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2521 โจทก์สั่งให้จำเลยซื้อหลักทรัพย์หรือหุ้นให้โจทก์ ต่อมาเจ้าหน้าที่ของจำเลยแจ้งให้โจทก์ทราบว่าได้ซื้อหุ้นให้โจทก์ไว้แล้วเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2521 โจทก์จึงขอชำระเงินและรับใบหุ้นจากจำเลย แต่จำเลยไม่มีใบหุ้นมอบให้ แสดงว่าจำเลยยังไม่ได้ซื้อหุ้นให้แก่โจทก์ตามคำสั่ง ต่อมาวันที่ 18 ธันวาคม 2521 จำเลยแจ้งให้โจทก์ไปรับใบหุ้น โจทก์จึงไปรับใบหุ้นและชำระเงิน จากการตรวจสอบของโจทก์ทราบว่าจำเลยไม่ได้ซื้อหุ้นให้โจทก์ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2521 การกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นการผิดต่อกฎหมายและระเบียบปฏิบัติของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและผิดสัญญาที่ทำกันไว้ ทำให้โจทก์จ่ายเงินค่าซื้อหุ้นให้จำเลยเกินความเป็นจริงไปรวม 126,831 บาท เพราะวันที่จำเลยส่งมอบใบหุ้นให้โจทก์นั้น ราคาหุ้นต่ำกว่าในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2521 จึงขอให้บังคับจำเลยคืนเงินจำนวนดังกล่าวแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยได้จัดซื้อหุ้นตามคำสั่งของโจทก์ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2521 ในราคาที่ถูกต้องตามความประสงค์ของโจทก์จำนวนเงินที่โจทก์ชำระให้จำเลยนั้นถูกต้องแล้ว ฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมเพราะไม่ได้บรรยายให้เข้าใจว่าจำเลยซื้อหุ้นตามฟ้องจากผู้ใด ณ ที่ใด ในราคาเท่าใด เมื่อใด และราคาหุ้นที่โจทก์นำมาคำนวณก็เลื่อนลอยไม่มีหลักเกณฑ์และเหตุผล ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ฟ้องของโจทก์ไม่เคลือบคลุม หุ้นที่จำเลยซื้อและส่งมอบให้โจทก์จำเลยมิได้ซื้อผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2521 ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าจำเลยซื้อหุ้นที่ส่งมอบให้โจทก์วันใด ราคาเท่าใด จึงต้องถือเอาราคาหุ้นในวันที่โจทก์ได้รับมอบจากจำเลยเป็นฐานคำนวณซึ่งมีราคาต่ำกว่า จำเลยจึงคิดราคาหุ้นและค่านายหน้าจากโจทก์เกินไปเป็นจำนวนตามฟ้อง พิพากษาให้จำเลยใช้เงิน 126,831 บาทแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยได้จัดซื้อหุ้นให้โจทก์ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2521 ตามคำสั่งของโจทก์ และได้มอบหุ้นให้โจทก์แล้ว โดยจำเลยมีสิทธิเอาใบหุ้นที่ซื้อในวันอื่นส่งมอบให้โจทก์ได้ การที่จำเลยส่งมอบหุ้นให้โจทก์ตรงตามชนิดและจำนวนจึงเป็นการชอบแล้ว โจทก์ต้องชำระราคาให้จำเลยตามราคาในวันที่สั่งซื้อ พิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อเท็จจริงว่า โจทก์ทำสัญญาให้จำเลยเป็นตัวแทนจัดการซื้อขายหลักทรัพย์ให้โจทก์ ณ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2521 แต่จำเลยไม่ได้เป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทำการซื้อขายหุ้น ณ ตลาดหลักทรัพย์ไม่ได้ จำเลยจึงได้มอบให้บริษัทลีกวงมิ้งทรัสท์จำกัด ซื้อแทน หุ้นที่จำเลยส่งมอบให้โจทก์นั้นมิได้มีการซื้อผ่านตลาดหลักทรัพย์ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2521 และวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ตามคำให้การของจำเลย จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ว่าจำเลยมีสิทธิที่จะนำใบหุ้นที่ซื้อในวันอื่นส่งมอบให้โจทก์แทนได้ ทั้งในชั้นชี้สองสถาน ศาลชั้นต้นก็กำหนดประเด็นข้อพิพาทไว้ว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุมหรือไม่ และจำเลยจัดซื้อหุ้นให้โจทก์ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2521 จริงหรือไม่ ต่อมาได้เพิ่มประเด็นข้อพิพาทอีกข้อหนึ่งว่าโจทก์ได้รับความเสียหายเพียงใดหรือไม่ และก่อนมีการสืบพยานกัน ศาลชั้นต้นก็ได้จดรายงานกระบวนพิจารณาว่า คู่ความมีประเด็นโต้เถียงกันเพียงว่าหุ้นตามใบหุ้นและเลขที่ตามหนังสือของจำเลยฉบับลงวันที่ 18 ธันวาคม 2521 นั้น จำเลยได้มีการซื้อผ่านตลาดหลักทรัพย์ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2521 หรือไม่ โดยโจทก์ว่าไม่มีการซื้อในวันดังกล่าว จำเลยว่ามีการซื้อในวันดังกล่าวจริง คดีหาได้มีประเด็นข้อพิพาทว่าจำเลยมีสิทธิจะนำใบหุ้นที่ซื้อในวันอื่นส่งมอบให้โจทก์แทนได้หรือไม่แต่อย่างใด ดังนั้นในชั้นอุทธรณ์ที่จำเลยอุทธรณ์ว่า จำเลยไม่จำเป็นต้องส่งมอบใบหุ้นที่ซื้อในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2521 โดยมอบใบหุ้นที่ซื้อในวันอื่นให้โจทก์แทนก็ได้ จึงเป็นข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น การที่ศาลอุทธรณ์ตั้งประเด็นและวินิจฉัยให้ดังกล่าวมา จึงเป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225
ในประเด็นที่โจทก์จำเลยโต้เถียงกันตามที่ศาลชั้นต้นได้จดไว้ในรายงานกระบวนพิจารณา โจทก์จำเลยมิได้ตกลงท้ากันให้เป็นข้อแพ้ชนะกันในคดี และคดียังมีประเด็นในข้ออื่นที่ศาลจะต้องวินิจฉัยต่อไปอีก ศาลจึงพิพากษาคดีให้จำเลยแพ้คดีเพราะเหตุดังกล่าวหาได้ไม่
โจทก์มิได้ฟ้องให้จำเลยใช้ค่าเสียหายอันเกิดแต่การชำระหนี้ไม่ถูกต้องหรือผิดนัดตามสัญญาตัวแทนแต่ประการใด โจทก์เพียงแต่ฟ้องให้จำเลยคืนเงินค่าหุ้นที่จำเลยคิดเกินไปเท่านั้น โจทก์จึงถือเอาราคาหุ้นในวันที่จำเลยส่งมอบหุ้นให้โจทก์มาเป็นหลักคำนวณว่าจำเลยคิดเงินค่าหุ้นเกินไปหาได้ไม่
คดีนี้ถึงแม้จำเลยนำสืบรับฟังไม่ได้ว่าหุ้นที่จำเลยส่งมอบให้โจทก์ได้มีการซื้อผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2521 ดังได้วินิจฉัยมาข้างต้นนั้นก็ตาม แต่ข้อกล่าวอ้างของโจทก์ตามฟ้องที่ว่าจำเลยคิดเงินค่าหุ้นจากโจทก์เกินไปซึ่งจำเลยให้การปฏิเสธนั้น ภาระการพิสูจน์ในข้อนี้ย่อมตกอยู่แก่โจทก์ โดยโจทก์จะต้องนำพยานหลักฐานมาพิสูจน์ต่อศาลให้ศาลเห็นจริงตามที่โจทก์กล่าวอ้าง กล่าวคือโจทก์จะต้องพิสูจน์ให้ศาลเห็นว่าหุ้นที่จำเลยส่งมอบให้โจทก์นั้นได้มีการซื้อผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่เท่าใดแน่ และหุ้นที่ซื้อผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันนั้นมีราคาซื้อขายกันในราคาเท่าใดเพื่อที่ศาลจะได้นำมาเป็นหลักในการวินิจฉัยว่าจำเลยในฐานะตัวแทนของโจทก์คิดเงินค่าหุ้นจากโจทก์เกินไปจริงหรือไม่ และเป็นหลักในการคำนวณว่าได้มีการคิดเงินค่าหุ้นเกินไปเป็นจำนวนมากน้อยเท่าใดหรือไม่อย่างไร ทั้งนี้เพราะราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแต่ละวันมีการขึ้นลงไม่แน่นอน บางวันมีราคาสูงบางวันมีราคาต่ำ โจทก์หาได้พิสูจน์ให้เห็นประจักษ์เลยว่าที่จำเลยเอาหุ้นที่ซื้อในวันอื่นมอบให้โจทก์นั้น เป็นหุ้นที่ซื้อผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่เท่าใด และหุ้นที่ซื้อผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันนั้นมีราคาซื้อขายกันในราคาเท่าใดแต่ประการใดไม่ เมื่อโจทก์มิได้พิสูจน์ให้เห็นประจักษ์ดังกล่าวมา ข้อกล่าวอ้างของโจทก์ที่ว่าจำเลยคิดเงินค่าหุ้นจากโจทก์เกินไปจึงรับฟังไม่ได้รูปคดีจำต้องยกฟ้องโจทก์อยู่ดี
พิพากษายืน
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ชื่อคู่ความ โจทก์ - นายปรีชา เทศสอาด จำเลย - บริษัทสยามเงินทุน จำกัด
ชื่อองค์คณะ สุทิน เลิศวิรุฬห์ เริ่ม ธรรมดุษฎี อำนวย อินทุภูติ
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan