สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 590/2542

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 590/2542

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 218 วรรคหนึ่ง

เมื่อศาลชั้นต้นลงโทษจำคุก 5 ปี ลดโทษให้หนึ่งในสี่คงจำคุก 3 ปี 9 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 3 ปี 4 เดือน จึงเป็นกรณีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขเล็กน้อยและยังลงโทษจำเลยไม่เกินห้าปีต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคหนึ่งจำเลยฎีกาว่าพยานโจทก์เป็นพิรุธไม่พอฟังลงโทษ อันเป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามฎีกาตามบทบัญญัติดังกล่าว ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66, 67, 102 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 ริบเงินสดจำนวน 1,650 บาท เมทแอมเฟตามีนและอุปกรณ์สำหรับเสพยาเสพติดให้โทษของกลางและคืนธนบัตรจำนวน 140 บาทที่ใช้ล่อซื้อให้แก่เจ้าของ

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง, 66 วรรคหนึ่งฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายจำคุก 5 ปีฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน จำคุก 5 ปี ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 หนึ่งในสี่ คงจำคุก 6 ปี 18 เดือน ริบเมทแอมเฟตามีนกับเงินสดจำนวน 1,650 บาท ของกลาง และคืนธนบัตรจำนวน 140 บาทที่ใช้ล่อซื้อให้แก่เจ้าของคำขออื่นให้ยก

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำเลยฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน จำคุก 5 ปี ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 หนึ่งในสามคงจำคุก 3 ปี 4 เดือน ให้ยกฟ้องฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและคืนเงินสดจำนวน 1,650 บาท แก่เจ้าของ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า สำหรับข้อหาจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนศาลชั้นต้นลงโทษจำคุก 5 ปี ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 หนึ่งในสี่ คงจำคุก 3 ปี 9 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ลดโทษให้หนึ่งในสามคงจำคุก 3 ปี 4 เดือน จึงเป็นกรณีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขเล็กน้อยและยังลงโทษจำเลยไม่เกินห้าปี ต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคหนึ่งจำเลยฎีกาใจความว่า พยานโจทก์เป็นพิรุธไม่พอฟังลงโทษจำเลยอันเป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามฎีกาตามบทบัญญัติดังกล่าวศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

พิพากษายกฎีกาจำเลย

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - พนักงานอัยการ สำนักงาน อัยการ สูงสุด จำเลย - นาย ประเสริฐ ผล มี ทรัพย์

ชื่อองค์คณะ ทองหล่อ โฉมงาม สกนธ์ กฤติยาวงศ์ กมล เพียรพิทักษ์

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th