ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้คัดค้านเป็นลูกจ้างของผู้ร้อง และเป็นกรรมการลูกจ้าง ปัจจุบันยังคงทำงานอยู่กับผู้ร้อง เมื่อวันที่ 28มีนาคม 2534 ผู้คัดค้านได้ละทิ้งหน้าที่ในระหว่างเวลาปฏิบัติงานอันเป็นการฝ่าฝืนต่อระเบียบข้อบังคับหรือคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายของผู้ร้อง และเป็นความผิดตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ข้อ 47(3) ซึ่งผู้ร้องเห็นสมควรลงโทษโดยการตักเตือนเป็นหนังสือ จึงขอให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องลงโทษด้วยการเตือนเป็นหนังสือ

ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า ในวันที่ 28 มีนาคม 2534ผู้คัดค้านมิได้ละทิ้งหน้าที่และมิได้ฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับหรือคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายของผู้ร้อง หรือกระทำผิดตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ข้อ 47(3)ตามที่ผู้ร้องกล่าวอ้าง ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิลงโทษผู้คัดค้าน ขอให้ยกคำร้อง

ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งให้ยกคำร้อง

ผู้ร้องอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า "ข้อเท็จจริงได้ความตามที่ศาลแรงงานกลางฟังมาว่า ระหว่างเวลา 12.30 ถึงเวลา 13 นาฬิกาเศษนั้นเป็นเวลาทำงานของผู้คัดค้าน ในระหว่างนั้นผู้คัดค้านไม่ได้ไปทำงานคงนั่งล้อมวงดูนายอุดมและนายสัมฤทธิ์เล่นหมากรุกกันอยู่ จนเมื่อเวลา 13 นาฬิกาเศษ นายนิกรผู้จัดการแรงงานสัมพันธ์ของผู้ร้องมาพบ ทั้งสามคนจึงได้แยกย้ายกันไปทำงาน ตามข้อเท็จจริงดังกล่าวนี้เป็นที่เห็นได้ว่าเมื่อถึงเวลาทำงานแล้วผู้คัดค้านและนายอุดมกับนายสัมฤทธิ์มิได้ไปทำงานตามหน้าที่ การไม่ทำงานตามหน้าที่ในเวลาทำงานเช่นนี้เป็นการละทิ้งหน้าที่การงานอย่างหนึ่ง การที่นายอุดมและนายสัมฤทธิ์ซึ่งเป็นผู้ที่จะต้องสั่งให้ผู้คัดค้านทำงานละทิ้งหน้าที่ไม่ทำงานตามเวลานั้น ไม่ก่อให้เกิดสิทธิที่ผู้คัดค้านซึ่งจะต้องทำงานที่จะละทิ้งหน้าที่การงานไปด้วยไม่ ในเมื่อทั้งสามคนร่วมกันไม่ปฏิบัติงานตามเวลาทำงานในหน้าที่ กรณีจึงต้องถือว่าละทิ้งหน้าที่การงานด้วยกัน ผู้ร้องจึงมีสิทธิที่จะลงโทษผู้คัดค้านได้ตามที่กำหนดไว้ในประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานข้อ 47(3) เมื่อผู้คัดค้านเป็นกรรมการลูกจ้าง ผู้ร้องมีอำนาจที่จะร้องขอให้ลงโทษได้ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 มาตรา 52 คำสั่งศาลแรงงานกลางไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา อุทธรณ์ของผู้ร้องข้อนี้ฟังขึ้นและกรณีไม่จำต้องวินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้ร้องในข้ออื่นอีก เพราะไม่เป็นประโยชน์แก่คดี"

พิพากษากลับ อนุญาตให้ผู้ร้องลงโทษผู้คัดค้านด้วยการตักเตือนเป็นหนังสือได้.

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th