ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำปรึกษามากกว่า
10,000+
ทนายความตัวจริง
500+


คดีเหล่านี้คงขึ้นมาสู่ศาลฎีกาเพียง 6 คดี โจทก์ฟ้องขับไล่ศาลชั้นต้นรวมพิจารณา มีประเด็นว่า (1) สถานที่เช่าเป็นเคหะหรือไม่ กับ (2) จำเลยผิดนัดชำระค่าเช่าหรือไม่ ศาลชั้นต้นเห็นว่าห้องเช่าทุกรายเป็นเคหะ ตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯ และจำเลยไม่ผิดนัด พิพากษาให้จำเลยชำระค่าเช่า ส่วนคำขออื่นให้ยกเสีย
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย
ศาลฎีกาเห็นว่าปัญหาข้อกฎหมายชั้นศาลฎีกาคงมีว่า
(1) เมื่อศาลชั้นต้นสั่งฟ้องอุทธรณ์โจทก์ว่าเป็นข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงปะปนกัน ศาลอุทธรณ์จะต้องถือตามคำสั่งนั้นหรือไม่
(2) ถ้าจำเลยไม่ดำเนินการตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 331 และ 333 ว่าด้วยวิธีวางทรัพย์แล้ว จำเลยต้องตกอยู่ในฐานะผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าหรือไม่
ศาลฎีกาเห็นว่าในปัญหาข้อ (1) ศาลอุทธรณ์หาจำต้องผูกมัดโดยคำสั่งรับอุทธรณ์ของศาลชั้นต้นไม่ ส่วนข้อ (2) นั้นการวางทรัพย์เป็นเรื่องการปลดเปลื้องให้พ้นความรับผิดในการชำระหนี้ ส่วนเรื่องที่ว่าลูกหนี้ได้ผิดนัดชำระหนี้แล้วหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
จึงพิพากษายืน
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา









