โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้รับประกันภัยความเสียหายที่เกิดแก่บริษัทแอ๊บบอตลาบอแรดอรีส จำกัด เนื่องจากการทุกจริตต่อหน้าที่ของพนักงาน จำเลยที่ 1 เป็นพนักงานรักษาเงินของบริษัทแอ๊บบอตลาบอแรตอรีส จำกัด จำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกันการทำงานของจำเลยที่ 1 ระหว่างปี 2525 ถึง 2527 จำเลยที่ 1ยักยอกเงินของบริษัทแอ๊บบอตลาบอแรตอรีส จำกัด เป็นจำนวน424,783.22 บาท โจทก์ได้ชำระค่าสินไหมทดแทนให้บริษัทแอ๊บบอตลาบอแรตอรีส จำกัด จำนวน 200,000 บาท จึงรับช่วงสิทธิมาฟ้อง ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองชำระเงิน 200,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2527 เป็นต้นไป

จำเลยทั้งสองให้การว่า จำเลยที่ 1 มิได้เบียดบังเอาเงินของบริษัทแอ๊บบอตลาบอแรตอรีส จำกัด ไป ระหว่างปลายปี 2525ถึงเดือนมิถุนายน 2527 เงินของบริษัทแอ๊บบอตลาบอแรตอรีส จำกัดไม่เคยขาดหายจากบัญชี หากเงินขาดหายไปก็มิได้เกิดจากการกระทำของจำเลยที่ 1 ความเสียหายมิได้เกิดขึ้นในระหว่างอายุสัญญาประกันภัยฟ้องโจทก์เคลือบคลุมและขาดอายุความแล้ว

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าบริษัทแอ๊บบอตลาบอแรตอรีส จำกัด มิใช่ผู้เสียหายในคดีนี้ แต่โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เป็นพนักงานรักษาเงินของบริษัทแอ๊บบอตลาบอแรตอรีส จำกัด และทุจริตต่อหน้าที่ เบียดบังเอาเงินที่รับจากพนักงานของบริษัทแอ๊บบอตลาบอแรตอรีส จำกัดไปเป็นของตน คำฟ้องและเอกสารท้ายฟ้องโจทก์ไม่มีข้อความตอนใดแสดงให้เห็นเลยว่า โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 เป็นพนักงานรักษาเงินบริษัทแอ๊บบอตลาบอแรตอรีส จำกัด และทุจริตต่อหน้าที่เบียดบังเอาเงินที่ได้รับจากพนักงานของบริษัทแอ๊บบอตลาบอแรตอรีส จำกัดด้วยแต่ประการใด โจทก์นำสืบต่างจากฟ้อง จึงรับฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 ยักยอกเงินของบริษัทแอ๊บบอตลาบอแรตอรีส จำกัดตามฟ้อง

พิพากษายืน.

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา