ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยจำนวน 38,040 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ย

จำเลยให้การว่า โจทก์เป็นพนักงานของจำเลย การที่โจทก์ออกจากงานเพราะเหตุเกษียณอายุ เป็นเรื่องที่โจทก์พ้นจากตำแหน่งโดยผลของกฎหมาย มิใช่เป็นการเลิกจ้างตามความหมายของประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน โจทก์ไม่มีสิทธิได้รับค่าชดเชย ทั้งก่อนที่โจทก์ออกจากงานมีพระราชบัญญัติพนักงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. 2534 ออกมาบังคับใช้ ซึ่งกำหนดให้กิจการรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยพนักงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ไม่อยู่ภายใต้พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องคดีนี้ที่ศาลแรงงานกลาง

ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยจำนวน38,040 บาท แก่โจทก์ พร้อมด้วยดอกเบี้ย

จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ตามคำวินิจฉัยของศาลแรงงานกลางว่า โจทก์เป็นลูกจ้างของจำเลยเข้าทำงานตั้งแต่ พ.ศ. 2511 เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2534จำเลยให้โจทก์ออกจากงานเพราะเกษียณอายุตามประกาศเขตบำรุงทางกรุงเทพฯ และบัญชีแนบท้ายตามเอกสารท้ายฟ้อง เห็นว่า ตามประกาศเขตบำรุงทางกรุงเทพฯ และบัญชีแนบท้ายดังกล่าว จำเลยมีคำสั่งให้โจทก์กับพวกพ้นจากตำแหน่งหน้าที่ เนื่องจากมีอายุครบ 60 ปี บริบูรณ์ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามความในมาตรา 33 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2494 และตามมาตรา 11วรรคสุดท้ายแห่งพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2518 จึงเป็นกรณีที่จำเลยได้มีคำสั่งให้เลิกจ้างโจทก์เพราะโจทก์มีอายุครบ 60 ปี บริบูรณ์ ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้หาใช่โจทก์ออกจากงานไปเองไม่ เมื่อจำเลยเลิกจ้างโจทก์เพราะเกษียณอายุ 60 ปี บริบูรณ์ มีผลเป็นการเลิกจ้างโจทก์โดยโจทก์ไม่ได้กระทำความผิด ตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องการคุ้มครองแรงงาน ข้อ 46 โจทก์จึงมีสิทธิได้รับค่าชดเชยแม้ขณะที่โจทก์ออกจากงานได้มีพระราชบัญญัติพนักงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. 2534 กำหนดมิให้พนักงานรัฐวิสาหกิจอยู่ภายใต้บังคับของพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 แต่สิทธิการรับค่าชดเชยของโจทก์มิได้เกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 แต่อย่างใด เป็นสิทธิของโจทก์ที่เรียกร้องตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องการคุ้มครองแรงงานการที่โจทก์ฟ้องเรียกค่าชดเชยจากจำเลยจึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวด้วยสิทธิหรือหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานตาม มาตรา 8(2)แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ. 2522 จึงอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลแรงงาน โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยต่อศาลแรงงานกลาง และศาลแรงงานกลางมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีนี้ได้…"

พิพากษายืน.

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th