ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

Lawyer CTA
สมัครเป็นทนายออนไลน์ ง่ายๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย
เข้าถึงผู้ใช้เว็บไซต์กว่า 4 ล้านคน
ให้คำปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ค้นหามาตรา อัปเดตฎีกา ครบ จบ ในที่เดียว
ในทุกๆ ชั่วโมงมีคำปรึกษาใหม่จากลูกความ ที่รอทนายตอบอยู่
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 91, 264, 265, 268, 341 พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 3, 14 ริบของกลาง และให้จำเลยคืนเงิน 1,683,492 บาท แก่ผู้เสียหาย

จำเลยให้การรับสารภาพ

ระหว่างพิจารณาจำเลยและผู้เสียหายตกลงกันได้ โดยจำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้เสียหายจนเป็นที่พอใจ ผู้เสียหายแถลงไม่ติดใจดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและทางอาญาอีกต่อไปความผิดฐานฉ้อโกงตามฟ้องข้อ 1.1 และข้อ 1.2 กับความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมหรือเป็นเท็จตามฟ้องข้อ 1.5 ซึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้ สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (2) ศาลชั้นต้นจำหน่ายคดีเฉพาะความผิดดังกล่าวออกจากสารบบความ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265, 268 วรรคแรก ประกอบมาตรา 265 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานใช้เอกสารราชการปลอมตามฟ้องข้อ 1.5 เนื่องจากจำเลยเป็นผู้ปลอมเอกสารดังกล่าวเองตามฟ้องข้อ 1.3 และข้อ 1.4 จึงให้ลงโทษฐานใช้เอกสารราชการปลอมแต่กระทงเดียวตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 วรรคสอง จำคุก 2 ปี ฐานใช้เอกสารราชการปลอมตามฟ้องข้อ 1.7 เนื่องจากจำเลยเป็นผู้ปลอมเอกสารดังกล่าวเองตามฟ้องข้อ 1.6 จึงให้ลงโทษฐานใช้เอกสารราชการปลอมแต่กระทงเดียวตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 วรรคสอง จำคุก 2 ปี รวม 2 กระทง จำคุก 4 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 กึ่งหนึ่ง รวม 2 กระทง คงจำคุก 2 ปี ริบโทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลาง ส่วนที่โจทก์ขอให้จำเลยคืนเงิน 1,683,492 บาท แก่ผู้เสียหายนั้น เนื่องจากจำเลยได้ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายครบถ้วนตามที่ตกลงกับผู้เสียหายและเกินจำนวนเงินดังกล่าวแล้ว จึงให้ยกคำขอส่วนนี้

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาข้อกฎหมายต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า การที่จำเลยปลอมหนังสือราชการของกรมราชเลขานุการในพระองค์ตามฟ้องข้อ 1.3 และปลอมประกาศแต่งตั้งข้าราชการในพระองค์ตามฟ้องข้อ 1.4 แล้วนำไปใช้อ้างแสดงต่อผู้เสียหายตามฟ้องข้อ 1.5 เป็นความผิด 2 กระทง เนื่องจากเป็นเอกสารคนละประเภทกันหรือไม่ เห็นว่า การที่จำเลยปลอมหนังสือราชการของกรมราชเลขานุการในพระองค์ขึ้น 3 ฉบับ และปลอมประกาศแต่งตั้งข้าราชการในพระองค์ขึ้นอีก 1 ฉบับ แล้ว บันทึกภาพหนังสือราชการปลอมทั้งสี่ฉบับไว้ในโทรศัพท์เคลื่อนที่ของจำเลย จากนั้นจัดส่งภาพหนังสือราชการปลอมทั้งสี่ฉบับโดยวิธีลง (โพ้สต์) ไปยังโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้เสียหายในแอปพลิเคชันไลน์ชื่อ Chon Chill ในคราวเดียวกันก็ด้วยเจตนาที่จะใช้เป็นพยานหลักฐานเพื่อให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าจำเลยเป็นผู้ติดต่อประสานงานกับสำนักพระราชวังซึ่งจัดดำเนินการโครงการบ้านพอเพียงในพระราชดำริของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ตามเรื่องที่จำเลยกุขึ้นอย่างเป็นขั้นเป็นตอนตามฟ้องข้อ 1.5 นั่นเอง การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดกรรมเดียว ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว คำพิพากษาศาลฎีกาที่โจทก์อ้างข้อเท็จจริงไม่ตรงกับคดีนี้ ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา อ.2016/2564

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th