สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6053/2539

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6053/2539

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 132, 198

คดีที่มีจำเลยหลายคนเหตุที่ศาลจะมีคำสั่งจำหน่ายคดีออกเสียจากสารบบความเพราะถือว่าโจทก์ไม่ประสงค์จะดำเนินคดีต่อไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา198วรรค2ไม่จำต้องเกิดขึ้นแก่จำเลยทุกคนในคดีเสมอไปกรณีอาจเกิดขึ้นแก่จำเลยเป็นรายบุคคลก็ได้ในกรณีที่เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นแก่จำเลยในคดีเป็นรายบุคคลศาลจะมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยรายที่โจทก์ไม่ยื่นคำขอต่อศาลภายในกำหนดเวลาดังกล่าวเท่านั้นเพราะถือว่าโจทก์ไม่ประสงค์จะดำเนินคดีแก่จำเลยรายนั้นต่อไปศาลจะสั่งจำหน่ายคดีทั้งคดีออกเสียจากสารบบความหาได้ไม่

เนื้อหาฉบับเต็ม

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินตามเช็คพร้อมดอกเบี้ยจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์เจ้าพนักงานศาลได้ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยที่ 1และที่ 2 เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2538 และวันที่ 13 สิงหาคม 2538ตามลำดับ จำเลยที่ 1 ยื่นคำให้การเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2538

ต่อมาเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2538 เจ้าพนักงานศาลรายงานศาลว่าจำเลยที่ 2 มิได้ยื่นคำให้การภายในกำหนด และโจทก์มิได้ดำเนินการใด ๆ

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง ให้จำหน่ายคดีจากสารบบความ

โจทก์ อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายกคำสั่งจำหน่ายคดีของศาลชั้นต้นเฉพาะที่เกี่ยวกับจำเลยที่ 1 ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาต่อไปตามรูปคดี

จำเลย ที่ 1 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยที่ 1 ฎีกาว่า กรณีที่จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ แต่โจทก์ไม่ยื่นคำขอต่อศาลภายในสิบห้าวันนับแต่ระยะเวลาที่กำหนดให้จำเลยยื่นคำให้การสิ้นสุดลงเพื่อให้ศาลสั่งว่าจำเลยขาดนัด ให้ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดีนั้นออกเสียจากสารบบความ ศาลต้องมีคำสั่งจำหน่ายคดีทั้งคดีออกเสียจากสารบบความนั้น ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 198 วรรค 1 และวรรค 2 บัญญัติว่า "ภายใต้บังคับบทบัญญัติมาตรา 193 วรรค 4ถ้าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ ให้โจทก์มีคำขอต่อศาลภายในสิบห้าวันนับแต่ระยะเวลาที่กำหนดให้จำเลยยื่นคำให้การได้สิ้นสุดลง เพื่อให้ศาลมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัด คำขอเช่นว่านี้ให้ถือว่าโจทก์ประสงค์จะดำเนินคดีต่อไป

ถ้าโจทก์ไม่ยื่นคำขอต่อศาลภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าวแล้วให้ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดีนั้นออกเสียจากสารรบความ" เห็นว่าเหตุที่ศาลจะมีคำสั่งจำหน่ายคดีออกเสียจากสารบบความ เพราะถือว่าโจทก์ไม่ประสงค์จะดำเนินคดีต่อไปตามบทบัญญัติดังกล่าว ไม่จำต้องเกิดขึ้นแก่จำเลยทุกคนในคดีเสมอไป กรณีอาจเกิดขึ้นแก่จำเลยเป็นรายบุคคลก็ได้ ในกรณีที่เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นแก่จำเลยในคดีเป็นรายบุคคล ศาลจะมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยรายที่โจทก์ไม่ยื่นคำขอต่อศาลภายในกำหนดเวลาดังกล่าวเท่านั้น เพราะถือว่าโจทก์ไม่ประสงค์จะดำเนินคดีแก่จำเลยรายนั้นต่อไป ศาลจะสั่งจำหน่ายคดีทั้งคดีออกเสียจากสารบบความหาได้ไม่ คดีนี้จำเลยที่ 1ยื่นคำให้การแล้ว ดังนั้น การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งจำหน่ายคดีโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1 ออกเสียจากสารบบความจึงไม่ชอบ

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - บริษัท กรุงไทยแทรคเตอร์ จำกัด จำเลย - นาย นิเวศน์ ชายทุ่ย กับพวก

ชื่อองค์คณะ ทองเลื่อน พูลพิพัฒน์ ชลอ ทองแย้ม ทวิช กำเนิดเพ็ชร์

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE