ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ขออาศัยอยู่ในบ้านและที่ดินของโจทก์ต่อมาโจทก์แจ้งให้จำเลยขนย้ายออกไป จำเลยเพิกเฉย ทำให้โจทก์เสียหายขอให้บังคับจำเลยขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกจากบ้านและที่ดินของโจทก์ตามฟ้องกับให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหาย

จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า เดิมที่ดินเป็นของนายพักตร์ต่อมาปี 2502 นายพักตร์ให้จำเลยเข้าครอบครอง จำเลยได้ปลูกสร้างบ้านในที่ดินเพื่อพักอาศัยและครอบครองทำประโยชน์ตลอดจนจนถึงปัจจุบันโดยสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเป็นเวลา 30 ปีเศษ หลังจากโจทก์ซื้อที่ดินแล้วโจทก์ไม่เคยเข้าครอบครองหรือคัดค้าน จำเลยได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ ขอให้ยกฟ้อง และพิพากษาให้ที่ดินในส่วนที่จำเลยครอบครองเนื้อที่ 2 ไร่ 36 ตารางวา เป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลย

โจทก์ ให้การ แก้ฟ้อง แย้ง ขอให้ ยกฟ้อง แย้ง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกจากบ้านเลขที่ 29/2 และที่ดินโฉนดเลขที่ 21786 ให้จำเลยชดเชยค่าเสียหายแก่โจทก์ นับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยจะขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกจากบ้านและที่ดินดังกล่าว ยกฟ้องแย้ง

จำเลย อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน

จำเลย ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัย ข้อเท็จจริงฟังยุติได้ว่า เดิมที่ดินโฉนดเลขที่ 21786 เป็นของนายพักตร์ ต่อมานายพักตร์ขายที่ดินดังกล่าวให้แก่โจทก์ปัจจุบันจำเลยเป็นผู้ครอบครองที่ดินดังกล่าวบางส่วนซึ่งเป็นที่ดินพิพาทเนื้อที่ 1 ไร่ 3 งาน 28ตารางวา และจำเลยเป็นผู้ครอบครองบ้านพิพาทซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินพิพาทปัญหาว่า จำเลยได้ครอบครองที่ดินและบ้านพิพาทโดยสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของจนได้กรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 หรือไม่ เห็นว่าตามคำให้การและฟ้องแย้งของจำเลยซึ่งให้การและฟ้องแย้งว่านายพักตร์ได้ให้จำเลยเข้าครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทก็ดีตามคำเบิกความของจำเลยซึ่งเบิกความว่า นายพักตร์ได้ให้จำเลยและครอบครัวเข้าไปอยู่ที่กระต๊อบในที่ดินพิพาทจากนั้นจำเลยได้ขุดคูทำสวนและทำนาก็ดี เป็นการยอมรับว่า จำเลยเข้าไปครอบครองที่ดินและบ้านพิพาทโดยอาศัยสิทธิของนายพักตร์ทั้งศาลอุทธรณ์ก็ฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยและครอบครัวเข้าทำสวนในที่ดินพิพาทโดยอาศัยสิทธิของนายพักตร์ที่อนุญาตให้เข้าไป ซึ่งจำเลยมิได้ฎีกาโต้แย้งในข้อนี้ ข้อเท็จจริงจึงฟังยุติตามนั้น ดังนี้ แม้จำเลยจะทำสวนทำนาและเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ตลอดจนกระทำการอย่างใด ๆ ลงในที่ดินพิพาทอันเป็นการมั่นคงถาวรตามฎีกาของจำเลยก็ตาม กรณีถือไม่ได้ว่าเป็นการครองครองโดยมีเจตนาจะเป็นเจ้าของที่ดินพิพาท หากแต่เป็นการครอบครองแทนนายพักตร์เท่านั้น จำเลยจะครอบครองเป็นเวลานานเท่าใดก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์ ต่อมาเมื่อนายพักตร์ขายที่ดินให้แก่โจทก์จำเลยคงครอบครองที่ดินและบ้านพิพาทต่อมาก็ถือว่าเป็นการครอบครองแทนโจทก์จะครอบครองเป็นเวลานานเท่าใดก็ไม่ได้ซึ่งกรรมสิทธิ์เช่นกัน

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th