ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองกับพวกอีก 1 คน ได้ร่วมกันออกเช็คธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนหลังสวน ลงวันที่ 15 สิงหาคม 2529สั่งจ่ายเงินจำนวน 128,817 บาท ชำระหนี้ให้นายสันติ พูลเกษรในวันเดียวกันนั้นเองนายสันติได้โอนเช็คฉบับดังกล่าวชำระหนี้ให้นางสาวนิรมล พูลเกษร ผู้เสียหาย ซึ่งได้นำเช็คฉบับดังกล่าวไปเรียกเก็บเงินโดยผ่านบัญชีของบริษัทเงินทุนชาติไพบูลย์ จำกัดเพื่อเรียกเก็บเงินแทน ธนาคารตามเช็คได้ปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คเนื่องจากเงินในบัญชีไม่พอจ่าย และบัญชีปิดแล้ว ทั้งนี้จำเลยทั้งสองกับพวกได้ร่วมกันออกเช็คดังกล่าวโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค และออกเช็คให้ใช้เงินมีจำนวนสูงกว่าจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้ได้ในขณะที่ออกเช็คนั้น เหตุเกิดที่แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ และแขวงลุมพินี เขตปทุมวันกรุงเทพมหานคร เกี่ยวพันกัน ขอให้ลงตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83

ระหว่างพิจารณา นางสาวนิรมล พูลเกษร ผู้เสียหาย ยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ศาลชั้นต้นอนุญาต

จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง

โจทก์และโจทก์ร่วมอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497มาตรา 3 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ให้ลงโทษปรับจำเลยที่ 1เป็นเงิน 10,000 บาท จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 1 ปี

จำเลยทั้งสองฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า การที่โจทก์ร่วมรับแลกเช็คพิพาทจากนายสันติ แล้วนำเช็คดังกล่าวไปฝากผ่านเข้าบัญชีของบริษัทเงินทุนชาติไพบูลย์ จำกัด เพื่อให้เรียกเก็บเงินตามเช็คให้ทันในวันเดียวกัน เนื่องจากเป็นเช็คขีดคร่อมและโจทก์ร่วมเป็นลูกจ้างของบริษัทเงินทุนดังกล่าวโจทก์ร่วมจึงเป็นผู้ทรงเช็คพิพาทตามกฎหมาย เมื่อขึ้นเงินตามเช็คไม่ได้ ย่อมก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ร่วม โจทก์ร่วมจึงเป็นผู้เสียหายที่จะร้องทุกข์ได้แล้วศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อเท็จจริงว่าจำเลยทั้งสองยังไม่ได้ชำระเงินตามเช็คพิพาท จำเลยทั้งสองออกเช็คชำระหนี้โดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ย่อมมีความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง

ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ปรากฏว่าพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4 ได้ยกเลิกพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497และเป็นกฎหมายในส่วนที่เป็นคุณแก่จำเลย จึงให้ใช้พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 แทน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3

พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th