ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยประกอบกิจการเดินรถโดยสารประจำทางปรับอากาศรับส่งผู้โดยสารระหว่างอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลากับประเทศมาเลเซีย โดยใช้ชื่อว่า "นิวฮูเวอร์ทัวร์" เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2534 โจทก์ใช้บริการดังกล่าวของจำเลยเพื่อดินทางไปยังประเทศมาเลเซีย และมอบกระเป๋าสัมภาระที่บรรจุสิ่งของเครื่องใช้เอกสาร และทรัพย์สินที่มีค่าของโจทก์รวมราคา 49,500 บาท ให้พนักงานประจำรถซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยเก็บไว้ในที่เก็บของใต้ท้องรถที่โจทก์โดยสารแต่ด้วยความประมาทเลินเล่อปราศจากความระมัดระวังของพนักงานประจำรถลูกจ้างของจำเลยมิได้จัดการดูแลปิดประตูที่เก็บของดังกล่าวให้สนิทก่อนรถเคลื่อนออก จนเป็นเหตุให้กระเป๋าสัมภาระของโจทก์ตกหายไปในระหว่างทางที่รถแล่นทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายต้องสูญเสียทรัพย์สิน เอกสารต่าง ๆที่บรรจุในกระเป๋าสัมภาระรวมราคา 49,500 บาท และเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางค่าที่พัก ค่าอาหาร เพื่อดำเนินการจัดทำเอกสารต่าง ๆ ที่สูญหายขึ้นใหม่เป็นเงิน 23,000 บาท รวมเป็นค่าเสียหายทั้งสิ้น 72,500 บาท จำเลยในฐานะนายจ้างจึงต้องร่วมรับผิดต่อโจทก์ในการที่ลูกจ้างกระทำละเมิดแก่โจทก์ด้วยขอให้บังคับจำเลยชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยให้การว่า กิจการ "นิวฮุเวอร์ทัวร์" มิใช่ของจำเลยโจทก์มิใช่ผู้โดยสารที่เดินทางไปยังประเทศมาเลเซียจึงไม่มีอำนาจฟ้องพนักงานประจำรถมิได้เป็นลูกจ้างและกระทำในทางการที่จ้าง ของจำเลย อีกทั้งไม่มีหน้าที่เก็บสัมภาระของผู้โดยสาร ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 40,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยอุทธรณ์ โดยผู้พิพากษาที่ได้นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นรับรองว่ามีเหตุสมควรที่จะอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงได้

ศาลอุทธรณ์ภาค 3 วินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์เป็นฟ้องที่ขาดข้อสาระสำคัญที่จะทำให้จำเลยร่วมรับผิดในผลอันเกิดแต่มูลละเมิดที่ลูกจ้างของจำเลยก่อให้เกิดขึ้น พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีข้อวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่าคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่าฟ้องของโจทก์ซึ่งบรรยายว่า จำเลยประกอบกิจการเดินรถโดยสารประจำทางปรับอากาศ ฯลฯ พนักงานประจำรถซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์ผู้ใช้บริการรถดังกล่าวของจำเลย เป็นเหตุให้กระเป๋าสัมภาระของโจทก์ตกหายระหว่างทางทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ฯลฯ จำเลยในฐานะนายจ้างจึงต้องร่วมรับผิดต่อโจทก์ในการที่ลูกจ้างกระทำละเมิดต่อโจทก์ด้วยเป็นฟ้องที่แสดงสภาพแห่งข้อหาว่าลูกจ้างของจำเลยได้กระทำละเมิดต่อโจทก์ในทางการที่จ้างของจำเลยถูกต้องสมบูรณ์แล้วแม้ไม่ได้ระบุข้อความว่าเป็นการกระทำตามทางการที่จ้างของจำเลยลงไปด้วย ก็ไม่เป็นฟ้องที่ขาดข้อความสาระสำคัญซึ่งเป็นประเด็นแห่งคดี แต่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 ยังไม่ได้วินิจฉัยในประเด็นอื่น ๆ ตามอุทธรณ์ของจำเลย อีกทั้งคดีนี้ทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาท ซึ่งต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคหนึ่งศาลฎีกาจึงเห็นสมควรย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิจารณาในประเด็นอื่น ๆ ตามอุทธรณ์ของจำเลยต่อไป

พิพากษายกคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 3 ให้ศาลอุทธรณ์ภาค 3พิจารณาในประเด็นอื่น ๆ ตามอุทธรณ์ของจำเลยแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th