สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6333/2539

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6333/2539

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 104, 117

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 117 วรรคสองมิได้บัญญัติให้มีผลถึงว่า หากยังถามค้านพยานคนใดไม่เสร็จสิ้นแล้วก็ห้ามมิให้ศาลรับฟังพยานดังกล่าวเลยไม่ศาลจึงมีอำนาจที่จะนำคำพยานดังกล่าวที่ตอบคำซักถามของทนายโจทก์และตอบคำถามค้านทนายจำเลยแล้วบางส่วนมารับฟังประกอบพยานเอกสารของโจทก์และจำเลยที่ยื่นประกอบคำซักถามพยานปากนี้ได้ ส่วนจะรับฟังได้มากน้อยเพียงใดก็เป็นดุลพินิจของศาลในการชั่งน้ำหนักคำพยาน

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินค่าจ้างก่อสร้างที่ยังค้างชำระจำนวน 163,350 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยให้การว่า โจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาโดยละทิ้งงานไปจำเลยต้องว่าจ้างผู้อื่นมาทำงานแทนโจทก์ จำเลยมิได้ค้างชำระค่าจ้าง ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 143,466 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้อง (วันที่ 15 พฤศจิกายน 2536) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "สำหรับปัญหาข้อกฎหมายที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยในประการต่อมาว่า ศาลจะรับฟังคำเบิกความของนายไพโรจน์ คะรานรัมย์ พยานโจทก์ซึ่งยังเบิกความตอบคำถามค้านของทนายความจำเลยไม่แล้วเสร็จได้หรือไม่นั้น ข้อเท็จจริงในสำนวนปรากฏว่า ระหว่างพิจารณาโจทก์นำนายไพโรจน์หุ้นส่วนผู้จัดการของโจทก์เข้าเบิกความและทนายจำเลยได้ถามค้านไว้บ้างแล้ว แต่เนื่องจากติดเวลาเที่ยงจึงได้เลื่อนไปถามค้านในนัดต่อไป แต่นัดต่อมาพยานติดธุระไม่ได้มาศาลจึงเลื่อนวันนัดไปอีกโดยในนัดนี้พยานมาศาลแต่ฝ่ายจำเลยขอเลื่อนคดี หลังจากนั้นอีก 4 นัดพยานไม่มาศาล ศาลถือว่าโจทก์ไม่ติดใจสืบพยานปากนี้อีกต่อไป จึงให้งดสืบพยานปากนี้ ทนายโจทก์แถลงไม่ติดใจสืบพยานปากอื่น หมดพยานโจทก์ จำเลยแถลงไม่สืบพยานจำเลย เห็นว่าตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 117 วรรคสองเป็นบทบัญญัติที่กำหนดถึงวิธีการซักถามพยานของคู่ความเพียงว่าเมื่อคู่ความฝ่ายที่อ้างพยานได้ซักถามพยานของฝ่ายตนเสร็จแล้วก็ให้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งถามค้านพยานนั้นได้เท่านั้น มิได้บัญญัติให้มีผลถึงว่า หากยังถามค้านพยานคนใดไม่เสร็จสิ้นแล้วก็ห้ามมิให้ศาลรับฟังพยานดังกล่าวเลยแต่อย่างใดไม่ ศาลจึงมีอำนาจที่จะนำคำพยานดังกล่าวที่ตอบคำซักถามของทนายโจทก์และตอบคำถามค้านทนายจำเลยแล้วบางส่วนมารับฟังประกอบพยานเอกสารของโจทก์และจำเลยที่ยื่นประกอบคำซักถามพยานปากนี้ได้ ส่วนจะรับฟังได้มากน้อยเพียงใดนั้น ก็เป็นดุลพินิจของศาลในการชั่งน้ำหนักคำพยาน ดังนั้น ที่ศาลล่างทั้งสองนำคำเบิกความของนายไพโรจน์พยานโจทก์มารับฟัง จึงชอบด้วยกฎหมาย ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้นเช่นกัน"

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ชื่อคู่ความ โจทก์ - ห้างหุ้นส่วนจำกัด ดอน นก วิศวกรรม จำเลย - ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจตน์พิทัก

ชื่อองค์คณะ สันติ ทักราล อุดม มั่งมีดี สวรรค์ ศักดารักษ์

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE