ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 นำที่ดินของโจทก์ตอนทิศเหนือ ไปออก น.ส. 3 ก.เลขที่ 714 เป็นชื่อของจำเลยที่ 1 ตั้งแต่ พ.ศ. 2525 และจำเลยที่ 2 นำที่ดินของโจทก์ตอนทิศใต้ไปออก น.ส. 3 ก. เลขที่ 47 เป็นชื่อของจำเลยที่ 2 ตั้งแต่พ.ศ. 2521 ทั้งที่จำเลยที่ 1 และที่ 2 ไม่เคยครอบครองทำประโยชน์ การออกน.ส. 3 ก. ดังกล่าวจึงเป็นโมฆะ ขอให้พิพากษาว่า ที่ดินตาม น.ส. 3 ก. เลขที่ 714และเลขที่ 47 เป็นของโจทก์ ห้ามจำเลยทั้งสองและบริวารเกี่ยวข้อง ให้เพิกถอนชื่อจำเลยทั้งสองทางทะเบียนดังกล่าวและใส่ชื่อโจทก์ หากจำเลยทั้งสองไม่ปฏิบัติให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนา

จำเลยที่ 1 ให้การว่า การออก น.ส.3 ก. เลขที่ 714 ให้แก่จำเลยที่ 1 ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ยกฟ้อง

จำเลยที่ 2 ให้การว่า จำเลยที่ 2 เป็นเจ้าของและมีสิทธิครอบครองที่ดินตาม น.ส.3 ก. เลขที่ 47 การขอออก น.ส.3 ก. ดังกล่าวเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ได้นำที่ดินของโจทก์ด้านทิศเหนือไปขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 714แปลงหนึ่ง และจำเลยที่ 2 นำที่ดินของโจทก์ด้านทิศใต้ไปขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 47 อีกแปลงหนึ่ง จำเลยที่ 1 และที่ 2 ต่างให้การว่า ที่พิพาทแต่ละแปลงเป็นของตน ทรัพย์ที่พิพาทจึงแยกต่างหากจากกันโดยราคาทุนทรัพย์ที่พิพาทของจำเลยที่ 1 จำนวน 71,800 บาท และราคาทุนทรัพย์ที่พิพาทของจำเลยที่ 2 จำนวน 193,200 บาท ดังนั้น ทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกา จึงไม่เกินสองแสนบาท ห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคหนึ่ง

โจทก์ฎีกา ในปัญหาว่า โจทก์ได้ซื้อที่พิพาทจากจ่าสิบเอกดลชัยหรือไม่และโจทก์ครอบครองที่พิพาทแทนจำเลยที่ 1 และที่ 2 หรือไม่ อันเป็นการโต้แย้งดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์ภาค 1 ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงและฎีกาข้อ 3 ที่ว่าจำเลยที่ 1 และที่ 2 ไม่ใช่เจ้าของผู้ครอบครองที่พิพาทการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.)ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงเป็นโมฆะนั้น เป็นการเถียงข้อเท็จจริงซึ่งเป็นยุติและต้องห้ามฎีกาเพื่อสู่การวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายตามฎีกาของโจทก์จึงมีผลอย่างเดียวกับการฎีกาในข้อเท็จจริง ซึ่งต้องห้ามตามบทกฎหมายดังกล่าวข้างต้น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

พิพากษายกฎีกาโจทก์

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th